คาสิโนออนไลน์

คาสิโนออนไลน์
คาสิโนออนไลน์

Wednesday, July 31, 2019

ท่องเที่ยวในประเทศไทย เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี

                         ท่องเที่ยวในประเทศไทย เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี






แหล่งมะพร้าว ประเภทยอดเยี่ยมของไทยในสมัยก่อน แต่ว่าในวันนี้นักเดินทางทั่วทั้งโลกรู้จักเกาะสมุยในฐานะ สรวงสวรรค์กึ่งกลางสมุทรอ่าวไทย ด้วยริมหาดขาวงามขนานไปกับทะเลครามแล้วก็ทิวมะพร้าวเรียงรายสวยงามบนชาย ชายหาดรอบเกาะ แต่ละชายหาดมีบรรยากาศนาๆประการให้เลือกท่องเที่ยวบนเกาะพร้อมพรั่งไปด้วยบ้านพัก หลากสไตล์ บาคาร่า ห้องอาหารหลายรสบริการพาเที่ยว สถานเริงรมย์ และก็เครื่องอำนวยความสะดวกครบถ้วน เป็นเสน่ห์เฉพาะบุคคลที่สร้างความคลั่งไคล้ให้กับแขก

ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com


Tuesday, July 30, 2019

  ท่องเที่ยว หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ สถานที่สำหรับท่องเที่ยวงามที่สุดในไทย




หมู่เกาะพีพีมีเกาะ 6 เกาะ เป็น เกาะพีพีเล เกาะพีพีดอน เกาะยูง เกาะไผ่

เกาะบิดะนอก รวมทั้งเกาะบิดะใน ซึ่งแต่ละที่ล้วนแต่มีทิวภาพน่าละลานตา

ด้วยเทือกเขาหินเขาหินปูนสูงใหญ่ กับริมทะเลขาวงาม บาคาร่า น้ำทะเล

เขียวใส แต่ว่าในเวลาเดียวกันก็ยังโด่งดังในฐานะดินแดนที่บุปผชาติใต้

มหาสมุทรจากกิจกรรม ท่องโลกใต้สมุทร มุดน้ำ มองต้นปะการัง ดอกไม้

ทะเลหลายสีสันสวยสดงดงาม และก็สรรพสัตว์น้อยใหญ่เป็นที่น่าหลงใหลนัก

ประดาน้ำจากทั่วทั้งโลกให้แวะเวียนมาเยี่ยม

ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com




Monday, July 29, 2019

ท่องเที่ยวที่เมืองไทย สถานที่เที่ยว หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา

                              ท่องเที่ยวที่เมืองไทย สถานที่เที่ยว หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา




คว้าความเป็นสุดยอดสถานที่สำหรับท่องเที่ยวจำพวกนี้ไปด้วยริมน้ำขาวละเอียด บริสุทธิ์

เหมือนกับแป้งบน  ชายทะเลเกาะน้อยใหญ่  ที่เรียงรายจากแนวเหนือไปใต้รวม 9 เกาะ อันเป็น

ต้นเหตุของนามสิมิลัน ซึ่งสื่อความหมายในภาษายาวีแสดงว่า เก้า รวมถึงแผ่นน้ำที่เป็นสี

เขียวครามใส ใต้แผ่นน้ำยังนับว่าเป็นยอดเยี่ยมของแหล่งมุดน้ำ ทั้งยังมุดน้ำตื้นแบบสนอร์เกิล

แล้วก็มุดน้ำลึกแบบสกูบา เพราะว่าอุดมด้วยต้นปะการังแข็ง ต้นปะการังอ่อน  บาคาร่า  กะละ

ปังหา และก็ฝูงปลาน้อยใหญ่นานาจำพวก บนเกาะแปดยังมีหินเรือใบ ประติมากรรมธรรมชาติ

ในเวลาที่เกาะสี่ยังคงภาวะป่าดงดิบสมบูรณ์บริบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยของนกชาปีไหน ค้างคาว

แม่ไก่และก็ปู่ไก่ ที่มีเสียงร้องเหมือนลูกเจี๊ยบ รวมทั้งสัตว์ป่าอีกหลายอย่าง

ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com






Sunday, July 28, 2019

ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง สถานที่เที่ยวสวยในไทย

                      ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง สถานที่เที่ยวสวยในไทย




ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์และเป็น แหล่งต้นน้ำลำธาร โดดเด่นในความเป็นอุทยานแห่งชาติที่เน้นการท่องเที่ยวเพื่อ

สุขภาพ ด้วยมีแอ่งอาบน้ำอุ่นที่เกิดจากน้ำร้อนในบ่อน้ำพุร้อนมาบรรจบกับน้ำเย็นที่ มาจากน้ำตกแจ้ซ้อน ดำเนิน

งานตามแนวพระราชดำริในการใช้พลังงานน้ำธรรมชาติมาประยุกต์ อุทยานใช้ไฟฟ้าที่ผลิตเองจากโรงไฟฟ้าพลัง

น้ำ ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกแจ้ซ้อน ที่บนเส้นทางพบสัตว์หายากอย่างนกเขนเทาหางแดง

ปลาปุงรวมทั้งพรรณไม้ต่าง ๆ สามารถศึกษาระบบนิเวศและสภาพภูมิศาสตร์โดยรอบลานน้ำพุร้อนและเส้น

ทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกแม่เปียก ศึกษาความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศและ บาคาร่า การนำทรัพยากรจากป่า

มาใช้ประโยชน์


ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com

Friday, July 26, 2019

อุทยานแห่งชาติภูเขาสุเทพ ปุยนุ่น จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่สำหรับท่องเที่ยวในประเทศไทย

       อุทยานแห่งชาติภูเขาสุเทพ ปุยนุ่น จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่สำหรับท่องเที่ยวในประเทศไทย 




เหนือ เทือกเขาสูงซับซ้อน หลายลูก เป็นต้นว่า ภูเขาสุเทพ ภูเขาบวกห้า แล้วก็ภูเขาฟู เป็นแหล่งเกิดของต้นน้ำลำห้วย ดังเช่น ห้วยแก้ว ห้วยช่างเคี่ยน ห้วยแม่ปาน ที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิง รวมทั้งน้ำตกสวยอีกหลายที่ ตัวอย่างเช่น น้ำตกมณฑาห้วย น้ำตกแม่สา เป็นน้ำตกที่งดงามมากมาย น้ำตกตาดหมอก-วังฮาง น้ำตกตาดหมอกฟ้า น้ำตกมหิดล น้ำตกศรีสังวาลย์ น้ำตกเขาหินลาด บาคาร่า  และก็น้ำตกห้วยแก้ว

ยังมีหน้าหน้าผาอันเป็นสถานที่ชมวิวหลายที่ โดยยิ่งไปกว่านั้นยอดดอยปุกปุยซึ่งเป็นป่าสนเขา เห็นทิวภาพได้รอบๆ อีกทั้งสามารถเยี่ยมเยือนหมู่บ้านคนประเทศไทยเทือกเขาเผ่าต่างๆตัวอย่างเช่น ม้ง เย้า อาข่า ลีซอ มูเซอ ได้สบาย เพราะว่ามีทางเดินไปถึงทุกหมู่บ้าน บนทางขึ้นสู่สวนยังมีจุดแวะน่าดึงดูดอย่างอนุสาวรีย์อาจารย์บาศริวิชัย รวมทั้งพระตำหนักภูเขาอิงครั้งชนิเวศน์ ซึ่งตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพรรณสวยหรู

                                         ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com

Thursday, July 25, 2019

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติในประเทศไทย

                         อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง  แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติในประเทศไทย






 เป็นผืนป่าต้นน้ำสำธารที่โดดเด่นด้วยป่าและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และทิวเทือกเขาสูงชันสลับ

ซับซ้อน มีจุดชมทิวทัศน์ที่ ชื่อเสียงโด่งดัง  ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย คือ จุดชมวิวห้วยน้ำดัง

อันเป็นสถานที่ซึ่งสามารถชมทะเลหมอกยามเช้าได้อย่างชัดเจนงดงาม ท่ามกลางแสงสีทองของ

อรุณรุ่ง แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวนับพันมาพักแรมเพื่อรอชม นอกจากนี้ยังมียอดดอยที่มีธรรมชาติ

งดงามอีกหลายแห่ง เช่น ดอยช้าง ดอยสามหมื่น บาคาร่า รวมทั้งโป่งเดือดซึ่งเป็นน้ำพุร้อน

ธรรมชาติ ทางอุทยานได้จัดสร้างบ้านพักพร้อมบ่อสำหรับอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนครบวงจร

พร้อมบริการ


ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com


Wednesday, July 24, 2019

อุทยานแห่งชาติภูเขากระดึง จังหวัดเลย สถานที่สำหรับท่องเที่ยวเมืองไทย

                        อุทยานแห่งชาติภูเขากระดึง จังหวัดเลย สถานที่สำหรับท่องเที่ยวเมืองไทย






อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของเมืองไทยต่อจาก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  เหนือที่ราบกว้างขวางบนยอดภูเขาสูง 1,200 เมตร จากค่าเฉลี่ยของระดับทะเล สวยงามด้วยทิวสนเรียงราย นักเดินทางส่วนมากชอบพอภูเขา บาคาร่า  กระดึงเพราะว่าความมากมายหลายในด้านการท่องเที่ยว ด้วยเหตุว่ามีหน้ามาสถานที่ชมวิวเยอะมากหลายจุด ที่ดังมีชื่อเสียงเป็นจุดดูตะวันขึ้นที่หน้าผานกแอ่นรวมทั้งจุดดูพระ อาทิตย์ตกที่เขาหินหล่มสัก ทั้งมีน้ำตกขนาดกึ่งกลางและก็ขนาดเล็กที่งาม เป็นต้นว่า น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกวังกวาง น้ำตกห้วยสรวงสวรรค์ อื่นๆอีกมากมาย ทั้งภาวะป่าที่มีอีกทั้งป่าสนเขา ป่าดินเขา ป่าเต็งรัง และก็ป่าเบญจพรรณ ทำให้มีพรรณไม้แปลกๆงดงาม ในยามดอกไม้ ป่าสะพรั่งบานเปรียบได้กับกับสวนบนสวรรค์


ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com

Tuesday, July 23, 2019

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

                  อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย


สุดยอดเหนือใครในสยามประเทศด้านความสูงด้วยดอยอินทนนท์ ยอดเขาที่สูงที่สุด ในประเทศไทย 2,565 เมตร จากระดับทะเลปานกลางท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อน อากาศหนาวเย็นตลอดปี แวดล้อมด้วยสภาพป่าแบบดึกดำบรรพ์ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้หลากหลายชนิด และนกสวยงามนานาชนิด ด้วยเป็นป่าต้นน้ำ จึงมีน้ำตกสวยงามขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น น้ำตกแม่ยะ น้ำตกสิริภูมิ น้ำตกแม่กลาง ฯลฯ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ บาคาร่า  ซึ่งกองทัพอากาศสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบอีกด้วย


ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com

Monday, July 22, 2019

สวนประวัติศาสตร์เมืองหลวงคีรี จังหวัดเพชรบุรี สถานที่เที่ยวในประเทศไทย

                      สวนประวัติศาสตร์เมืองหลวงคีรี จังหวัดเพชรบุรี สถานที่เที่ยวในประเทศไทย






 นครหลวงคีรีหรือเขาวัง เป็นพระราชสำนักที่เดียวของเมืองไทยที่ตั้งอยู่ บนยอดดอย  ซึ่งแรกเริ่มมีชื่อเรียกว่า

เขาสมณะ เหตุเพราะมีวัดสมณะวัดเก่าตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยาอยู่บนไหล่เขาด้าน ทิศตะวันออก พระบาทสมเด็จพระ

จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ครั้งยังบวชอยู่เคยเด็จมาปฏิบัติภาวนาบนยอดดอย ข้างหลังเสด็จขึ้นครองราชย์ก็

เลยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวังขึ้น โดยยอดดอยทางทิศตะวันตกเป็นที่ประทับแล้วก็เรือนบริวารยอดกึ่งกลางเป็นที่ตั้ง

ของ พระบรมสารีริกธาตุจอมเพชร บาคาร่า  ใส่พระบรมสารีริกธาตุ รวมทั้งบนยอดดอยด้านทิศตะวันออกเป็นที่

ตั้งของสงฆ์พระแก้ว วัดประจำวังเมืองหลวงคีรี พระราชทานนามว่า ราชสำนักเมืองหลวงคีรี เด่นด้วยความงามของ

รูปทรงที่ผสมกันอย่างพอดีระหว่างสถาปัตยกรรมกับภาวะพื้นที่

ขอบคุณแหล่งที่มา  https://travel.mthai.com

Sunday, July 21, 2019

สวนประวัติศาสตร์พิมาย จังหวัดนครราชสีมา ท่องเที่ยวในเมืองไทย

                             สวนประวัติศาสตร์พิมาย จังหวัดนครราชสีมา ท่องเที่ยวในเมืองไทย





เมืองโบราณในแบบแผนของสถาปัตยกรรมเขมร ชื่อ พิมาย มาจากคำว่า วิมาย หรือ วิมายปุระที่ปรากฏในจารึกภาษาเขมรบนแผ่นหินตรงกรอบประตูระเบียงคดข้างหน้าของพระราชวัง ข้อดีของเมืองเป็นวังหินพิมาย พระราชวังหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จากหลักฐานแผ่นจารึกรวมทั้งแบบทางศิลป์สร้างแสดงว่า ผลิตขึ้นในยุคพระผู้เป็นเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวพุทธศักราชที่ 16 ในฐานะเทวสถานของพราหมณ์ลักษณะของศิลป์เป็นแบบบาปวนประสมประสานกับศิลป์แบบนครวัด ซึ่งวังนี้ได้ถูกดัดแปลงแก้ไขมาเป็นสถานที่ทางพุทธในยุคพระผู้เป็นเจ้าชัยวรมัน ที่ 7 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ยังเป็นแหล่งเก็บ รวบรวมของเก่า  ศิลป์เขมรเอาไว้เยอะแยะและก็น่าดึงดูดที่สุดของ เมืองไทยอีกด้วย  บาคาร่า

ขอบคุณแหล่งที่มา  https://travel.kapook.com

Saturday, July 20, 2019

ท่องเที่ยวในประเทศไทยพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม

                                        ท่องเที่ยวในประเทศไทยพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม




สถานที่ควรเคารพบูชา  ประจำเมืองจังหวัดนครปฐม พระเจดีย์องค์เดิมมีลักษณะทรงโอคว่ำหรือ

ทรงมะนาวผ่าซีก ชนิดเดียวกันกับพระเจดีย์สาญจี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรง

มีพระราชวิเคราะห์ว่าเจดีย์ใหญ่องค์นี้บางทีอาจเป็นเจดีย์ที่ทำขึ้นแต่ว่าครั้งพระสมที่นักการทูตของพระผู้

เป็นเจ้าต้นอโศกมหาราช เดินทางมาเผยแผ่ศาสนาพุทธยังสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก ก็เลยโปรดเกล้าฯ
ให้บูรณ์ซ่อมแซมขึ้นและก็พระราชทานนามใหม่ว่า พระปฐมเจดีย์  อันหมายความว่าเจดีย์ที่แรก

เดี๋ยวนี้ยังคงมีชาวพุทธเดินทางมาสักการะบูชาจำนวนไม่ใช่น้อยทุกปี ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

พระปฐมเจดีย์ ยังเป็นแหล่งเก็บศิลปกรรมชิ้นเอกยุคทวารวดีเอาไว้สูงที่สุดด้วย  บาคาร่า 


ขอบคุณแหล่งที่มา  https://travel.kapook.com

Friday, July 19, 2019

ท่องเที่ยวเกาะปันหยี ที่เที่ยวสุดฮอต ในประเทศไทย

                                           ท่องเที่ยวเกาะปันหยี ที่เที่ยวสุดฮอต ในประเทศไทย




เกาะปันหยี ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เป็นหมู่บ้านของชาวอิสลามกึ่งกลางน้ำ

ซึ่งมีมายาวนานมากกว่า บาคาร่า 200 ปี ประชาชนยังคงใช้วิถีชีวิตแบบชาวเลแท้ๆด้านในเกาะมีบ้านที่พักของ

ประชาชน ที่สร้างขึ้นมาจากอุปกรณ์ธรรมชาติ มีสุเหร่า และสนามฟุตบอลขนาดเล็กของเด็กๆในหมู่บ้าน เว้นแต่นัก

เดินทางจะได้สรรเสริญวิถีชีวิตอันเรียบง่ายแล้ว ยังจะได้ลิ้มรส อาหารทะเลสดใหม่ ของกินท้องถิ่น และเลือกซื้อ

ผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดของราษฎรอีกด้วย

ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com

Thursday, July 18, 2019

พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม ท่องเที่ยวเมืองไทย ที่เก่าแก่ที่สุด

                                  พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม ท่องเที่ยวเมืองไทย ที่เก่าแก่ที่สุด






ตามตำนาน บอกว่าองค์พระบรมสารีริกธาตุเดิม สร้างมานาน ไม่น้อยกว่า 2,300 ปี โดยพระมหากัสสปะ

พร้อมอรหันต์ 500 องค์ ได้นำพระอุรังคธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้ามาบรรจุไว้ พระบรมสารีริกธาตุ

พนมเคยล้มทลายลงอีกทั้งองค์ใน พุทธศักราช 2518 เพราะความเก่าแก่รวมทั้งถูกพายุฝนรัวต่อเนื่องกันนับเป็น

เวลาหลายวัน คนไทยทั่วประเทศได้ด้วยกันบริจาคเงินทุนบูรณแก้ไขฟื้นฟูองค์พระบรมสารีริกธาตุขึ้นใหม่ตาม

แบบเดิม เสร็จใน พุทธศักราช 2522 บาคาร่า ในวันนี้พระบรมสารีริกธาตุพนมก็เลยยังคงสูงเด่นสวยอยู่เป็นที่

เคารพสักการะของพุทธ ศาสนิกชนทั่วๆไป โดยเฉพาะสามัญชนในภาคอีสานรวมถึงทางฝั่งลาวด้วย

ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ของทุกปี จะมีชาวพุทธหลั่งไหลมาร่วมงานเฉลิมฉลองพระบรมสารีริกธาตุประพรม

จากทั่วทุกแห่ง

ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com

Wednesday, July 17, 2019

เที่ยวในไทยทะเลแหวก ชมธรรมชาติของทะเล

                                            เที่ยวในไทย ทะเลแหวก ชมธรรมชาติของทะเล



ทะเลแหวก   เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจาก อิทธิพลของ น้ำขึ้นและน้ำลง ทำให้สันทรายปรากฏขึ้น เมื่อน้ำลด นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น ไป - มา ได้ระหว่างเกาะ โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาถ่ายรูปกันเพื่อเป็น ที่

ระลึก และเล่นน้ำทะเล เนื่องจากบริเวณนี้ น้ำทะเลจะใส สามารถมองเห็นฝูงปลาสวยงามตัวเล็กๆ นักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาเพื่อชมปรากฏการณ์ ทะเลแหวกนี้ ควรจะเดินทางมาในช่วง เวลาที่น้ำทะเลลงต่ำสุด ในแต่ละวัน โดยเฉพาะในวันก่อน และหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน
  
ทะเลแหว  เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำลดลงต่ำสุดในแต่ละวัน บาคาร่า เหมือนทะเลแหวกออกจนกลายเป็นหาดทรายขาวสะอาด เชื่อมเกาะสองเกาะอย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะในวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ฤดูกาลท่องเที่ยวคือเดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี  

ขอบคุณแหล่งที่มา https://sites.google.com

Sunday, July 14, 2019

วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

                          วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย




ปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองบนยอดดอยสูง สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุตั้งแต่พ.ศ. 1916 ในสมัยพญากือนาแห่งอาณาจักรล้านนา ความสง่างาม ขององค์พระธาตุเจดีย์เหลี่ยมประดับด้วยแผ่นทองอร่ามตารวมทั้งการตกแต่งประดับประดาด้วยศิลปกรรมล้านนาอันงดงามท่ามกลางม่านหมอกของผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์เหนือเทือกดอยสูง รวมทั้งสภาพอากาศอันเย็นสบายผสมผสานกันเป็นบรรยากาศอันขรึมขลังที่แตกต่างจากสถานที่
อื่น ๆอย่างเป็นเอกลักษณ์ บาคาร่า สร้างความประทับใจกับผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างต่อเนื่องจึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้รับคะแนนนิยมอย่างล้นหลามตามอันดับ 1มาติด ๆ

ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com

Saturday, July 13, 2019

                       วัดพระแก้ว หรือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เที่ยวในประเทศไทย กรุงเทพมหานคร



พระอารามหลวงในบริเวณพระบรมมหาราชวังแห่งนี้ เป็นหนึ่งในบรรดาแหล่งท่องเที่ยวแห่งแรกๆ ของประเทศ

ที่เปิดเผยออกสู่สายตาของชาวโลกเมื่อแรกเริ่มมีการส่งเสริมการท่องเที่ยว ขึ้นในประเทศไทยเมื่อ 50 ปีก่อน

นอกจากความสำคัญในฐานะเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระแก้วมรกต สถาปัตยกรรม

หลายยุคหลายสมัยที่สร้างเสริมสืบต่อกันมา และการตกแต่งประดับประดาอันอลังการก็เป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดใจ

โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังรอบพระระเบียงคด บาคาร่า เรื่องรามเกียรติ์อันวิจิตรตระการตาและมีความยาว

ที่สุดในโลก

ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com

Friday, July 12, 2019

เกาะกูดจังหวัดตราด สถานที่ท่องเที่ยวเมืองไทย

                                            เกาะกูดจังหวัดตราด สถานที่ท่องเที่ยวเมืองไทย



เกาะสวรรค์ แห่งชายฝั่งตะวันออก เป็น  แหล่งพักผ่อน ตากอากาศชั้นดี ที่คุณควรมาสัมผัส

ด้วยหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส ไม่แพ้หลีเป๊ะ เกาะเต่า หรือ พีพีเลย หากมาพักเป็นคู่

จะโรแมนติกมาก บาคาร่า  เพราะมีมุมชมพระอาทิตย์ตกริมทะเลที่สวยมากที่หนึ่งบนเกาะกูด

แถมมีร้านอาหารบรรยากาศใต้แสงเทียนใชเหมาะกับคู่รักสุดๆ

ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.mthai.com

Thursday, July 11, 2019

ท่องเที่ยวดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศ

                                 ท่องเที่ยวดอยอินทนนท์  เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศ


ได้ชื่อว่าเป็นยอด ดอยที่สูงที่สุด  ในประเทศไทย แต่ ดอยอินทนนท์ กลับเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกสุด ๆ

เพราะทุกที่สถานที่เที่ยวเด่นถูกเชื่อมต่อด้วยถนนลาดยางอย่างดี ทำให้นักเดินทางต่างก็อยากเดินทาง

ไปพักผ่อนเสมอเมื่อมีโอกาส แต่สิ่งที่น่าสนใจของดอยนี้ไม่เพียงแต่เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศ

ด้วยความสูง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางเท่านั้น ด้วยสภาพภูมิประเทศ สภาพป่าที่หลาก

หลาย และอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวัน บางครั้ง

น้ำค้างยังกลายเป็นน้ำค้างแข็ง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนที่นี่อย่างไม่ขาดสาย ส่วน

สถานที่ท่องเที่ยวก็มีอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์ ตลาดม้ง กิ่วแม่ปาน

หมู่บ้านม้งขุนกลาง พระมหาธาตุนภเมทนีดล  บาคาร่า  พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ น้ำตกวชิรธาร น้ำตก

สิริภูมิน้ำตกผาดอกเสี้ยว บ้านแม่กลางหลวง และจุดสูงสุดบนยอดดอยอินทนนท์ เป็นต้น ใครชอบเที่ยว

สไตล์ไหนก็สามารถเลือกได้ตามใจได้เลย

ขอบคุณแหล่งที่มา http://www.cpholidays.co.th

Tuesday, July 9, 2019

เล่าเรื่องเมือง...ลับแลง หลง ลับ แล เลือน


เมืองลับแล อุตรดิตถ์

“ความลึกลับ… ตำนานเมืองแม่ม่าย… เมืองห้ามพูดโกหก… แล้วก็ทุเรียนหลงลับแล” นวลเชื่อว่าทุกคนก็คงจะตอบคล้ายกันอย่างนี้...

แต่เชื่อไหมครับ...ถ้าถามคนลับแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านลับแลงจริงๆนี่ เป็นคนละเรื่องเลยนะ...ข้อเท็จจริงที่เด่นชัดคือชาติพันธุ์ของชาวลับแลส่วนใหญ่เป็นชาวไท-ยวนที่อพยพมาจากล้านนา ลับแลงคือเมืองที่มีประวัติศาสตร์เป็นของตัวเอง เป็นเมืองที่มีตัวตน ไม่ได้เกิดจากตำนานเล่าขาน...

วันนี้นวลจะพาแฟนจ๋าไปรู้จักลับแลง หรือลับแล บาคาร่า เมืองที่มากล้นไปด้วยมนต์ขลัง ความลับที่แท้จริงของวิถีชีวิตและความเป็นมาของชาวลับแล ผ่านประวัติศาสตร์ที่กำลังเลือนหายไป

พาไปชมความเป็นมาในความเป็น ไทย-ยวน ลับแล เรือนไม้ไทยวน ผ้าซิ่นตีนจก อาหารพื้นบ้านที่เป็นอัตลักษณ์ของชาวลับแล ที่ขาดไม่ได้คือพาฝ่าไอหมอกขึ้นดอยไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวสวนผลไม้ สวนทุเรียนหลง-หลินลับแล ที่มีรสชาติแสนอร่อย การใช้ชีวิตแอบอิงกับธรรมชาติที่เป็นเสน่ห์ของชาวลับแล ที่รับรองว่าแฟนจ๋าจะต้องหลงรักลับแลแน่นอนครับ

เมื่อพูดถึงเมืองลับแล อุตรดิตถ์ แล้วแฟนจ๋านึกถึงอะไร?

ความลึกลับ … ตำนานเมืองแม่ม่าย… เมืองห้ามพูดโกหก… แล้วก็ทุเรียนหลงลับแล”

นวลเชื่อว่าทุกคนก็คงจะตอบคล้ายกันอย่างนี้...

แต่เชื่อไหมครับ...ถ้าถามคนลับแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านลับแลงจริงๆนี่ เป็นคนละเรื่องเลยนะ...ข้อเท็จจริงที่เด่นชัดว่าชาติพันธุ์ของชาวลับแลส่วนใหญ่เป็นชาวไท-ยวนที่อพยพมาจากล้านนา ลับแลงคือเมืองที่มีประวัติศาสตร์เป็นของตัวเอง เป็นเมืองที่มีตัวตน ไม่ได้เกิดจากตำนานแต่อย่างใด...

มาๆนวลจะเล่าให้ฟังครับ...

ราวปี พ.ศ. 2507 เมื่อคราวบูรณะแท่นพระเจ้ายอดคำทิพย์ พระครูธรรมเนตรโสภน อดีตเจ้าอาวาสวัดท้องลับแล พบคัมภีร์ใบลานซุกอยู่ในโพรงใต้ฐานพระ ท่านเห็นว่าเป็นเอกสารสำคัญจึงเอามาแปลจากอักษรธรรมล้านนาเป็นอักษรไทยใส่ลงสมุด ในเอกสารว่าด้วยตำนานการสร้างพระพุทธรูปพระเจ้ายอดคำทิพย์ ตำนานได้อ้างอิงที่มาของเมืองลับแลไว้ โดยเฉพาะเรื่องที่เจ้ายี่กุมกาม เจ้าเมืองเชียงราย (ในเอกสารเขียน เจ้ายี่ความแก้ววงเมือง) ได้ขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าไสลือไทแห่งกรุงสุโขทัย เพื่อยกทัพไปตีเชียงใหม่ของพระญาสามฝั่งแกนผู้เป็นพระอนุชา แต่ไม่สำเร็จ เจ้ายี่กุมกามจึงได้เทครัวหรือกวาดต้อนชาวเมืองเชียงราย ติดตามกองทัพสุโขทัยลงมาตั้งรกรากอยู่ที่เวียงสระหนองหลวง ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองลับแลในปัจจุบัน

อีกทั้งยังอ้างอิงถึงอีกเหตุการณ์ คือพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์องค์ที่ 9 ของราชวงศ์มังราย ยกทัพจากเชียงใหม่เพื่อขับไล่กองทัพอยุธยาของพระเจ้าบรมไตรโลกนาถ โดยกองทัพของพระเจ้าติโลกราชก็ได้มาพักพลที่เมืองแห่งนี้ และพบว่าผู้คนถิ่นนี้เป็นชาวไท-ยวนอยู่แล้ว หลังจากพระองค์สามารถขับไล่กองทัพอยุธยาออกไปแล้ว ก็ได้สถาปนาเวียงสระหนองหลวงเป็นเมืองลับแลงไชย และราชาภิเษกขึ้นเป็น "พระเจ้าติโลกมหาราชาฟ้าฮ่าม" ปฐมกษัตริย์แห่งลับแลงไชย คำว่า ‘ฟ้าฮ่าม’ มาจากเมื่อครั้งที่พระเจ้าติโลกราชเดินทางมาถึงเมืองแห่งนี้ แล้วพบท้องฟ้ามีแสงสีแดงอร่าม (ฮ่าม) ในยามเย็น (แลง) ใกล้จะลับขอบฟ้าไป และนี่คือที่มาของคำว่า "ลับแลง"

ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...ที่ตำนานท้องถิ่นถูกผูกเข้าไว้กับประวัติศาสตร์ของผู้คน เรารู้ตัวกันอีกที อนุสาวรีย์แม่ม่ายและป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า ‘เขตห้ามพูดโกหก’ ก็ถูกสร้างอยู่ข้างซุ้มประตูทางเข้าอำเภอลับแลเรียบร้อยแล้ว...

นวลเองต้องขอชี้แจงก่อนว่า ทำไมต้องใช้คำว่า ‘ลับแลง’ ไม่ใช่ ‘ลับแล’ แม้คำว่าลับแลจะเป็นชื่อที่เป็นทางการของอำเภอนี้ก็ตาม...

คำว่า ‘ลับแล’ ซึ่งเป็นชื่ออันเป็นที่มาของตำนานหมู่บ้านลึกลับ(แล) ของพื้นที่นี้ น่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า ‘ลับแลง’ ซึ่งคำหลังเป็นคำพื้นเมือง ที่มีที่มาจากลักษณะทางภูมิประเทศของเมืองที่รายล้อมด้วยภูเขา เมื่อถึงเวลาที่พระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขา เมืองแห่งนี้จะถูกกลืนหายลับเข้าไปในเงามืดของยามแลงอย่างรวดเร็ว ลับแลงเป็นถิ่นกำเนิดของผืนป่าที่น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งปลูกทุเรียนและผลไม้ สร้างรายได้หลักของชาวชุมชนมาหลายต่อหลายรุ่น


วิถีชีวิตของชาวลับแล ทุกวันนี้ยังคงหลงเหลือเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวไท-ยวนอย่างชัดเจนทั้ง ภาษาพูด ผ้าซิ่นตีนจก การแต่งกาย วัดวาอาราม โบราณวัตถุ และโบราณสถาน

"กาด" หรือ "ตลาด" จะเป็นอีกหนึ่งหลักฐานทางวัฒนธรรมที่จะยังคงหลงเหลือให้เราได้เข้ามาสัมผัสกับ นวลแวะที่ตลาดศรีนพมาศครับ

สิ่งแรกที่ยืนยันเลยคือการพูด "คำเมือง" หรือภาษาถิ่นภาคเหนือ ต้องบอกก่อนว่านวลเองก็เป็นคนเหนือ เป็นคนเชียงราย ซึ่งนวลสามารถใช้คำเมืองสื่อสารกับคนลับแลได้เลย เหมือนได้กลับบ้านอีกครั้ง ไม่ต้องพยายามพูดไทยให้มันปะแหล๊ดเลย

อาหารคาวหวานพื้นถิ่น ของกิ๋นบ้านเฮามีมากมาย เลือกเอาเตอะนาย ยิ่งเห็นกองผักปั๋งละกึดเติงหาอุ้ย ตอนละอ่อนนวลชอบแกงผักปั๋งใส่จิ้นส้มของอุ้ยที่สุดเลย

ปัจจุบันชาวไทยวนในอำเภอลับแลส่วนใหญ่อยู่ในเขตตอนเหนือของอำเภอ และที่ตั้งตัวอำเภอ

ส่วนเขตทางใต้ของอำเภอลับแล ทางฝั่งทุ่งยั้งยังคงเป็นชุมชนภาษาถิ่นแบบสำเนียงสุโขทัยโบราณอยู่

ดังนั้นชาวลับแลจึงมีขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม ทั้ง 2 วัฒนธรรม คือชุมชนภาษาถิ่นแบบสำเนียงสุโขทัยโบราณ และชุมชนภาษาถิ่นล้านนา มีภาษาพูด ภาษาเขียน การแต่งกาย อาหารการกิน เป็นแบบล้านนา

ประวัติศาสตร์อันยาวนานและสิ่งที่สะท้อนวัฒนธรรมของคนไทยส่วนใหญ่จะเริ่มต้นหรือเกิดมาจากวัด

เรามาเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของเมืองลับแลง ที่วัดบรมธาตุทุ่งยั้งกันครับ

วัดบรมธาตุทุ่งยั้งผูกพันธ์ยังไงกับลับแล...

หากสังเกตจะพบว่า วิหารในวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งเป็นศิลปะยุคอยุธยาที่ปนกับลักษณะวิหารแบบล้านนา ซึ่งปนกันได้สัดส่วนจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งกว่าจะเป็นวิหารหลวงแบบที่เราเห็นในปัจจุบันนั้น ได้มีการบูรณะหลายต่อหลายครั้ง

วิหารหลวงเป็นวิหารขนาด 5 ห้อง หลังคามุมกระเบื้อง 3 ชั้น ประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ไม้แกะสลักที่หน้าบันติดกระจก ลงรักปิดทอง มีมุขทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัยบนฐานชุกชีศิลปะล้านนา ชาวบ้านนิยมเรียกชื่อหลวงพ่อหลักเมืองว่าหลวงพ่อประธานเฒ่า เพดานวิหารหลวงเขียนสี ผนังของวิหารหลวงเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามแต่ปัจจุบันลบเลือนไป เป็นเรื่องพุทธประวัติตอนมารผจญ และเรื่องสังข์ทองครับ

พระบรมธาตุทุ่งยั้ง เป็นเจดีย์ทรงระฆังแบบลังกาลักษณะฐานขียงซ้อนกัน 3 ชั้นลดหลั่นกันไป ชั้นล่างก่อด้วยศิลาแลง ทั้ง 4 มุมมีเจดีย์ขนาดเล็กทรงระฆังอยู่ตรงกลาง เรือนธาตุของเจดีย์ทั้ง 4 ด้านประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนอยู่ภายในซุ้มจรนำ

มาต่อกันที่วิหารวัดดอนสักครับ สำหรับวิหารวัดดอนสักนั้นเป็นสถาปัตยกรรมเชียงแสนปนสุโขทัย ที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย

สิ่งที่น่าสนใจ คือ บานประตูวิหาร ที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ตัวเสาประตูเป็นลายกนกใบเทศสลับลายกนกก้ามปู บานประตูเป็นไม้แกะสลักทั้งบาน รูปลายกนกก้านขด มีรูปสัตว์หิมพานต์แทรกอยู่ในลวดลายกนกต่าง ๆ มีความอ่อนช้อยสวยงาม

โดยบานซ้ายและขวานั้นไม่เหมือนกัน แต่เมื่อปิดบานแล้วลวดลายมีความลงตัวเข้ากันได้สนิท เป็นคู่บานประตูไม้จำหลักโบราณสมัยอยุธยาที่มีความสวยงามคู่หนึ่งเลยละครับ

เอกสารที่เก่าแก่ที่สุดที่อ้างอิงถึงชื่อเมืองลับแลกลับอยู่ใน ‘คู่มือตอบคำถามสำหรับฑูต’ ที่เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรียังประเทศฝรั่งเศส ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ โดยในเอกสารได้ระบุว่า เมืองลับแลเป็นเมืองรองเมืองหนึ่งในแคว้นพิชัย

แม้จะพบหลักฐานถึงการอ้างอิง ‘การมีอยู่’ ของผู้คนลับแล แต่ก็ยังไม่สามารถระบุ ‘ที่มา’ คนลับแลว่ามาจากไหนและมาได้อย่างไร...

กระทั่งล่าสุดเมื่อต้นปี 61 ได้มีการการขนย้ายคัมภีร์ใบลานและปั๊บสาที่ถูกทิ้งร้างอยู่ภายในโบสถ์กลางน้ำของวัดท้องลับแลแห่งนี้ออกมา และชักชวนศูนย์เอกสารเอกสารโบราณ มูลนิธิสืบสานล้านนา โดยพ่อครูมาลา คำจันทร์ ลงพื้นที่เพื่อสืบค้นคัมภีร์โบราณเหล่านี้ หนึ่งในเอกสารที่ค้นนั้นก็เผยข้อมูลที่ช่วย ‘จุดประกาย’ ที่มาของคนลับแลไปพร้อมกับมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการพลิกประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของเมืองเล็กๆ เมืองนี้

“เราพบสมุดฝรั่ง (สมุดที่ใช้กันในปัจจุบัน) ที่มีการคัดลอกและแปล (จากตัวอักษรล้านนาเป็นตัวอักษรไทย) มาจากคัมภีร์โบราณอีกที สมุดนั้นบันทึกเนื้อหาของ ‘ตำนานพระเจ้ายอดคำทิพย์’ ระบุประวัติการสร้างพระพุทธรูปในวัดท้องลับแล ต้นฉบับเขียนโดยพระสุวรรณปัญญาญาณ เมื่อ พ.ศ. 2128 โดยในคำนำที่พระครูธรรมเนตรโสภณเขียนไว้ระบุว่าท่านพบต้นฉบับใบลานนี้เมื่อคราวบูรณะแท่นพระเจ้ายอดคำทิพย์ ราวปี พ.ศ. 2507 ใบลานซุกอยู่ในโพรงใต้ฐานพระ ท่านเห็นว่าเป็นเอกสารสำคัญจึงเอามาแปลจากอักษรธรรมล้านนาเป็นอักษรไทยใส่ลงสมุด ซึ่งรูปแบบของการเขียนบันทึกของคนโบราณนั้น เขาจะเขียนบันทึกพื้นเพของยุคสมัยด้วย และหนังสือเล่มนี้ก็ได้ระบุถึงการสร้างเมืองลับแล ซึ่งเมื่อเทียบปีพุทธศักราชและจุลศักราชกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ ก็สามารถยืนยันว่าความเชื่อถือได้” พ่อครูมาลา กล่าวให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Spark U LANNA

นวลขอยกมาเล่าให้ฟังคร่าวๆดังนี้นะครับ

ราวปี พ.ศ. 2507 เมื่อคราวบูรณะแท่นพระเจ้ายอดคำทิพย์ พระครูธรรมเนตรโสภน อดีตเจ้าอาวาสวัดท้องลับแลแห่งนี้ พบคัมภีร์ใบลานซุกอยู่ในโพรงใต้ฐานพระ ท่านเห็นว่าเป็นเอกสารสำคัญจึงเอามาแปลจากอักษรธรรมล้านนาเป็นอักษรไทยใส่ลงสมุด ในเอกสารว่าด้วยตำนานการสร้างพระพุทธรูปพระเจ้ายอดคำทิพย์

ตำนานได้อ้างอิงที่มาของเมืองลับแลไว้ โดยเฉพาะเรื่องที่เจ้ายี่กุมกาม เจ้าเมืองเชียงราย (ในเอกสารเขียน เจ้ายี่ความแก้ววงเมือง) ได้ขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าไสลือไทแห่งกรุงสุโขทัย เพื่อยกทัพไปตีเชียงใหม่ของพระญาสามฝั่งแกนผู้เป็นพระอนุชา แต่ไม่สำเร็จ เจ้ายี่กุมกามจึงได้เทครัวหรือกวาดต้อนชาวเมืองเชียงราย ติดตามกองทัพสุโขทัยลงมาตั้งรกรากอยู่ที่เวียงสระหนองหลวง ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองลับแลในปัจจุบัน

อีกทั้งยังอ้างอิงถึงอีกเหตุการณ์ คือพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์องค์ที่ 9 ของราชวงศ์มังราย ยกทัพจากเชียงใหม่เพื่อขับไล่กองทัพอยุธยาของพระเจ้าบรมไตรโลกนาถ โดยกองทัพของพระเจ้าติโลกราชก็ได้มาพักพลที่เมืองแห่งนี้ และพบว่าผู้คนถิ่นนี้เป็นชาวไท-ยวนอยู่แล้ว หลังจากพระองค์สามารถขับไล่กองทัพอยุธยาออกไปแล้ว ก็ได้สถาปนาเวียงสระหนองหลวงเป็นเมืองลับแลงไชย และราชาภิเษกขึ้นเป็น "พระเจ้าติโลกมหาราชาฟ้าฮ่าม" ปฐมกษัตริย์แห่งลับแลงไชย คำว่า ‘ฟ้าฮ่าม’ มาจากเมื่อครั้งที่พระเจ้าติโลกราชเดินทางมาถึงเมืองแห่งนี้ แล้วพบท้องฟ้ามีแสงสีแดงอร่าม (ฮ่าม) ในยามเย็น (แลง) ใกล้จะลับขอบฟ้าไป และนี่คือที่มาของคำว่า "ลับแลง"

เราไปกันต่อที่พิพิธภัณฑ์เรือนลับแลงโบราณ เลอ ลับแลง บ้านของดาบฟ้า ไชยลับแลง ผู้ที่ร่วมกับชุมชนจัดตั้งกลุ่มฟื้นฟูอัตลักษณ์ไท-ยวนลับแลงขึ้น

พิพิธภัณฑ์เรือนลับแลโบราณ ‘เลอลับแลง’ เป็นบ้านไม้โบราณ ที่แสดงให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนไท-ยวนลับแลง สมัยก่อน อนุรักษ์ไว้โดยพี่ดาบฟ้า ซึ่งก็คือเจ้าของคนปัจจุบัน ได้ทำการซื้อเรือนมาจากทายาทของพญาสิงห์แก้ว แล้วย้ายมาปลูกสร้างให้ได้ใกล้เคียงสภาพเดิมมากที่สุด เพื่อต้องการรือฟื้นอัตลักษณ์ไทยวนลับแลง

ประกอบด้วยเรือนสองหลัง คือ เรือนสิงห์แก้ว และเรือนเปง-จัน สำหรับเรือนสิงห์แก้ว เป็นเรือนไม้กาแลแบบลับแลงดั้งเดิม ที่นิยมกันในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา แบ่งพื้นที่ใช้สอยอออกเป็น ชานแดด เรือนนอน เรือนข้าว ครัวไฟ หอลม และชานน้ำ

เรือเปง-จัน เป็นเรือนสรไนแบบลับแลงโบราณ แบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็น 5 ส่วน ชานแดด เรือนนอนหลัก เรือนนอนรอง หอลม และชานน้ำครับ

การทอผ้าซิ่นตีนจกของชาวลับแล มีมานานพร้อมกับการตั้งถิ่นฐานของชาวเมืองลับแล การทอผ้าซิ่นตีนจกนั้นผู้หญิงชาวลับแลจะได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้มีการถ่ายทอดมรดกทางภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าของการทอผ้าซิ่นตีนจกไว้

พิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจก ไท-ยวน ลับแลแห่งนี้ เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาการทอผ้าตีนจกไท-ยวนสู่คนรุ่นหลัง ซึ่งเกิดขึ้นจาก "ครูโจ" ลูกหลานชาวไทยวนเมืองลับแล
ครูโจเล่าว่า เกิดในครอบครัวไท-ยวนแห่งเมืองเชียงแสน ที่ผู้หญิงทุกคนทอผ้าสืบต่อกันมาแบบรุ่นต่อรุ่น แต่ด้วยตนเป็นผู้ชาย จึงถูกกันให้ออกห่าง แต่ด้วยความรักในความงดงามของลายผ้า เขาจึงอาสาช่วยแม่ย้อมไหมและเห็นแม่ทอผ้าบ่อยๆ เมื่อมีโอกาสและเงินเล็กน้อยครูโจก็มักเลือกซื้อผ้าเก่ามาเก็บไว้มากกว่าการใช้เงินจับจ่ายเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไป

ในปี พ.ศ. 2545 ครูโจได้รวมกลุ่มทอผ้าบ้านคุ้มและบ้านนาทะเลขึ้น โดยตนเป็นผู้เลือกสีสันของเส้นไหมให้มีความหลากหลาย เน้นวัตถุดิบที่ดี ทั้งเส้นไหมและการย้อมสีเป็นธรรมชาติทั้งสิ้น ส่งต่อให้ช่างทอผู้มีฝีมือและจินตนาการได้แต่งแต้มความงดงามให้ผืนผ้าไหม โดยยังยึดถือลวดลายตีนจกและวิธีการทอตามแบบโบราณไว้อย่างไม่ตกหล่น ด้วยการใช้ขนเม่นในการจก รวมถึงเรื่องเล็กๆ อย่างการต่อซิ่นด้วยเอวแดงขาว และ ‘หมายซิ่น’ หรือตำแหน่งของรอยต่อผ้าทอที่จะต้องไม่ต่อลายให้ชนกัน ด้วยคนสมัยโบราณมีความเชื่อว่าอาจมีการทำคุณไสยได้

การทอผ้าซิ่นตีนจกของสาวลับแลเป็นการสืบทอดภูมิปัญญา สอดแทรกคติความเชื่อ พิธีกรรม และธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ด้วยจินตนาการของคนในอดีต ออกมาเป็นลายเรียบง่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ลายนกคุ้ม ลายแปดขอ ลายหงส์ใหญ่ ลายนาค ลายเก็ดถะหวา (ดอกพุดซ้อน)

ใต้ถุนบ้านเป็นที่ตั้งของกี่ทอผ้า ซึ่งมีเอกลักษณ์ด้วยเป็นผืนผ้าชิ้นไม่กว้างนัก แสดงให้เห็นถึงความมานะพยายามของผู้จกเส้นไหมแต่ละเส้นแต่สีได้อย่างดงามโดยไม่มี ‘ตะกอ’ ตะกอ หรือเขาหูก คือเชือกที่ใช้ร้อยคล้องไหมยืน เพื่อแบ่งเส้นไหมเป็นหมวดหมู่ตามที่ต้องการ เมื่อยกตะกอขึ้น ก็จะดึงเส้นไหมยืนเปิดเป็นช่อง สามารถพุ่งกระสวยเข้าไปให้เส้นไหมพุ่งสานขัดกับเส้นไหมยืนได้ ทำให้การทอได้ลายตามที่ตั้งตะกอไว้ แต่ที่นี่กลับไม่ใช้ตะกอ ผู้ทอจึงต้องจำลายได้อย่างแม่นยำ ต้องใช้ฝีมือและความชำนาญอย่างสูงในการทอ สมกับที่ครูโจบอกว่าเขาไม่ได้ขายเพียงผ้าเท่านั้น แต่ขายจิตวิญญาณและอัตลักษณ์ของความเป็นไท-ยวน และชาวลับแลอย่างแท้จริง

หากสนใจและต้องการเข้าชม ต้องโทร.นัดหมายล่วงหน้าที่ คุณจงจรูญ มะโนคำ (ครูโจ) โทร. 08 7198 7353

อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจก ไท-ยวนลับแล ที่นวลอยากให้มาชมคือ ม่อนลับแล ที่นี่มีทั้งผ้าทอพื้นเมือง ผ้าซื่นตีนจก จากฝืมือการทออย่างปราณีตงดงามของชาวลับแล ใครที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นเมืองหายาก หรือกำลังมองหาของฝากให้ญาติผู้ใหญ่ มีหลายสีสันให้เลือก รวมไปถึงเสื้อผ้าพื้นเมืองต่างๆ ผ้าพันคอ หรือย่ามสะพายก็มีนะครับ

“ม่อนลับแล” เป็นทั้งร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น แม่ตา หรือคุณจิตรา ศิริกาญจนารักษ์ เจ้าของเล่าว่าเดิมที่นี่เป็นบ้านส่วนตัว แต่ด้วยความเป็นคนเมืองลับแลโดยสายเลือด จึงอยากปรับบ้านให้เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นสำหรับแขกผู้มาเยือน พร้อมๆ กับดื่มด่ำรสชาติอาหารพื้นเมืองด้วย

ม่อนลับแลแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันครับ

ส่วนแรกเรียกว่าเรือนทอผ้าลับแล จัดแสดงงานหัตถกรรมขึ้นชื่อ ไม่ว่าจะเป็นตำนานผ้าทอลับแลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม้กวาดลับแลที่ทำจากดอกตองกง การสืบทอดการเขียนตัวอักษรล้านนาโดยผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้าน

ส่วนพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน เก็บรวบรวมภูมิปัญญาท้องถิ่นต่างๆ อันบ่งบอกถึงรากเหง้าทางวัฒนธรรม โดยผลักดันชุมชนให้มาร่วมกันสร้างสรรค์ในวิถีของตัวเอง

ในส่วนของพื้นที่ร้านอาหาร อย่างที่บอกว่า ที่นี่เน้นความเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่น เอกลักษณ์ของอาหารจึงไม่เหมือนที่ไหน

นอกจากลับแลจะมีความน่าสนใจในเรื่องตามรอยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์การย้ายถิ่นฐานของชาวไทยวนแล้ว ลับแลยังมีเอกลักษณ์ในด้านอาหารการกินที่ต่างไปจากที่อื่นๆเช่นกันครับ มาๆนวลจะพาไปกินของอร่อยเมืองลับแลกัน

เฮือนข้าวพันผักหม่อนแก้ว

มาเมืองลับแลต้องลองอาหารท้องถิ่น หนึ่งในอาหารเด่นขึ้นชื่อ คือ ข้าวพันผัก ที่ลับแลมีร้านข้าวพันผักให้เห็นอยู่ทั่วทั้งเมืองอยู่ที่ว่าจะลองทานร้านไหน นวลลองทานที่ เฮือนข้าวพันผักหม่อนแก้ว ร้านข้าวพันผักร้านนี้อยู่ใกล้ๆกับร้านของทอดเจ๊นีย์ครับ เป็นข้าวพันผักเครื่องแน่นแบบต่างๆที่มีให้เลือกเพียบ ทั้ง ข้าวพันผักห่อไข่ บอกเลยรสชาติไม่ธรรมดา อาจทำให้หลงรักการทานข้าวพันผักไปเลยก็ได้นะครับ

เมนูเด่นคงไม่พ้นข้าวพันผักและหมี่พันผักแบบท้องถิ่นดั้งเดิม เช่น ข้าวพันผักธรรมดา ข้าวพันผักห่อไข่ ไข่ม้วน หมี่พัน

ถ้าไม่มาร้านเจ๊นีย์ของทอดลับแล ก็เหมือนมาไม่ถึงลับแลนะครับ

ร้านนี้เปิดขายมานานกว่า 3o ปีแล้ว มีสารพัดเมนูของทอด ที่คนรักสุขภาพเห็นแล้วอาจลำบากใจนิดนึง 555+ ทั้งกุ้งทอด ผักทอด เต้าหู้ทอด เปาะเปี๊ยะทอด ขนมปังหน้าหมูทอด แต่ๆๆ จะถือว่าผิดถ้าไม่ได้กินเมนูท็อปฮิตของร้าน คือ กระบองทอด หรือ หน่อไม้ทอดยัดไส้หมูสับ ราคาเพียงชิ้นละ 10 บาทเท่านั้นเอง เคล็ดลับความอร่อยนอกจากตัวหน่อไม้แล้ว ยังอยู่ที่น้ำจิ้มถั่ว สูตรพิเศษ มีรสเปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ ลำขนาดเน่อ

ป้าหว่างหมี่พันลับแล

“หมี่พัน” เป็นอาหารพื้นเมืองดั้งเดิมของคนลับแล จะเอาเส้นหมี่ไปปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล มะนาว พริกป่น อาจโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว แคปหมู หรือกากหมู แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำไปวางบนแผ่นข้าวแคบ และม้วนๆ เหมือนโรตีสายไหม การห่อแบบนี้ยังช่วยถนอมอาหารด้วยนะคะ เป็นภูมิปัญญาของคนลับแล

สำหรับคนที่ไม่รู้จักข้าวแคบ ข้าวแคบเป็นอาหารว่างอย่างหนึ่ง โดยการนำเอาแผ่นแป้งไปตากแดด และเอาไปทำให้สุกโดยปิ้งหรือทอด อาจโรยงาเพิ่มความหอมอร่อย

ม่อนลับแล

ร้านอาหารในอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ตกแต่งสไตล์ชาวล้านนาตามแบบฉบับของเมืองลับแล ท่ามกลางสวนร่มรื่น ภายในร้านตกแต่งเรียบหรู สะดวกสบาย มีมุมให้นั่งเล่นพักผ่อนหลายมุม ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในคุ้มของเจ้านางทางเหนือ ภายในร้านมีทั้ง zone ร้านกาแฟและร้านอาหาร รวมทั้งเป็นร้านจำหน่ายของฝากและสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง ผลไม้ตามฤดูกาล พื้นที่ของร้านแบ่งเป็น 3 โซน คือ บ้านของฝากลับแล ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้า ร้านกาแฟลาลีกาซึ่งอยู่ริมถนน และร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ด้านในสุด

เมนูแนะนำก็จะเป็นราชาเขียวหวานกุ้ง ที่นอกจากกุ้งที่ใส่จะตัวใหญ่แล้วยังใส่ทุเรียนลงไปด้วยเพิ่งเคยทานครั้งแรกคือ อร่อยมากตอนแรกนึกว่าจะเลี่ยน แต่ไม่เลย เนื้อทุเรียนที่ใส่กรอบกำลังดี เหมือนกำลังทานยอดมะพร้าวอ่อน น้ำพริกมะขาม และลาบเหนือ รสชาติโดยรวมของอาหารต้องเรียกว่าอร่อยทุกเมนู ปริมาณเยอะแถมราคาไม่แพงมาก เป็นอีกหนึ่งร้านที่ติดดาวให้สำหรับคนที่กำลังมองหาร้านอาหารอร่อย บรรยากาศดีต้องไม่พลาดเลยครับ

มาถึงลับแล...จะไม่พูดถึงอีกหนึ่งของดีเมืองลับแล อย่างทุเรียนหลงลับแล และทุเรียนหลินลับแลก็ไม่สิครับ แต่ถ้านวลจะพาไปเดินตลาดซื้อทุเรียนมากินเลยมันก็ธรรมดาไป พิเศษใส่ไข่แบบนวลก็ต้องพาบุกไปถึงสวนทุเรียนสิครับถึงจะเรียกว่ามาถึงลับแลแล้ว นวลประสานผ่านพี่นิดและพี่สิงห์เพื่อติดต่อทริปโปรแกรมเรียนรู้วิถีชาวสวนทุเรียนวันเดย์ทริป มาๆนวลจะเล่าให้ฟัง

เราเริ่มต้นทริปกันแต่เช้าเลย หากสายๆจะขึ้นลำบากเพราะสวนทางกับรถขนทุเรียนนะ โดยได้มอไชด์คู่ใจของพี่สิงห์พานวลไปยังสวนทุเรียนที่อยู่บนเขาที่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 15กิโลครับ ทางค่อนข้างโหดพอสมควรครับ มีทริปกินทุเรียนชิวๆอยู่นะครับ เดี๋ยวนวลจะแปะรายละเอียดไว้ให้ท้ายริวิวนะครับ

วิถีชีวิตและอาชีพของชาวลับแลส่วนใหญ่ คือ การทำสวนผลไม้ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เพราะชาวลับแลทำสวนผลไม้ได้ทั้งในที่ราบและบนภูเขา ซึ่งทำมาตั้งแต่บรรพบุรุษ อำเภอลับแลมีผลไม้ออกมาให้กินกันตลอดปี ทั้งลองกอง ลางสาด ทุเรียน และมังคุด ชาวลับแลปลูกทุเรียนกันบนภูเขาด้วยการใช้หนังสติ๊กยิงส่งเมล็ดทุเรียนพันธุ์ดีขึ้นไปตกบนภูเขา รอให้เมล็ดเจริญงอกเงย เติบโตตามธรรมชาติ เจ้าของสวนใส่ปุ๋ยบ้างตามวาระ

เล่าเรื่องทุเรียนลับแล

ทุเรียนที่ลับแล เป็นทุเรียนป่า มีความแข็งแรง อึด หากินเก่ง ผลผลิตดก แต่การซื้อขายราคาไม่ดี น่าจะนำทุเรียนยอดนิยมแห่งยุค อย่างชะนีและหมอนทองเข้าไปเปลี่ยนยอดให้ การดำเนินการเป็นไปอย่างช้าๆ เพราะชาวบ้านไม่มีความเข้าใจ หลังเสียบยอดได้ ๔-๕ ปี ทุเรียนหมอนทองจากนนทบุรี ออกมาเป็นหมอนทองลับแล ถึงแม้รสชาติสู้นนทบุรีไม่ได้ แต่ก็ดีกว่าทุเรียนพื้นเมืองหลายเท่าตัว

เมื่อปี ๒๕๒๐ มีการป่าวประกาศไปทั่วอำเภอลับแลว่า ใครมีทุเรียนดีให้นำมาประกวด ดูๆ ไปก็คล้ายกับประกวดนาวสาวไทย การประกวดครั้งนั้น มีชาวสวนส่งทุเรียนของตนเองเข้าประกวดหลายร้อยตัวอย่างทุเรียนชนะการประกวดครั้งนั้น คือทุเรียนของ นายลม นางหลง อุปละ มีการตั้งชื่อทุเรียนของนายลมและนางหลง ว่า “หลงลับแล”

ทุเรียนหลงลับแล จัดเป็นทุเรียนที่มีเชื้อทุเรียนป่า มีความแข็งแรง ข้อแตกต่างจากทุเรียนทั่วไป อยู่ตรงที่ เนื้อมากสีเหลืองสวย เมล็ดลีบต่อผลสูง ชื่อเดิมอีกชื่อหนึ่งของเขาคือ “อีเหลืองหัวห้วย” เนื้อละเอียด รสชาติหวาน น้ำหนักเฉลี่ย ๑.๕ กิโล กรัมต่อผล ผลทรงกลม

ส่วนทุเรียนหลินลับแล นายหลินได้ปลูกด้วยเมล็ดตั้งแต่ปี ๒๔๙๓ ผลมีน้ำหนัก ๑-๑.๘ กิโลกรัม ผลทรงกระบอก เนื้อละเอียดมาก สีเหลืองอ่อน เปอร์เซ็นต์เมล็ดลีบมีมาก

ลุงสิงห์เล่าให้ฟังว่า ทุเรียนหลงลับแลและหลินลับแลถูกเรียกว่าเป็น “ทุเรียนเทวดาเลี้ยง” เพราะพื้นที่ของอำเภอลับแลส่วนใหญ่เป็นภูเขา ชาวสวนจึงทำสวนผลไม้ทั้งในที่ราบและบนภูเขา ต้นที่ขึ้นบนภูเขานั้นยากทั้งการเดินทางและการเข้าไปดูแล จึงต้องปล่อยให้เติบโตไปตามธรรมชาติ อาศัยน้ำฝนและสภาพอากาศที่เป็นใจบ้างไม่เป็นใจบ้างช่วยบำรุง มีไฟป่าเกิดจนทำให้ต้นทุเรียนเสียหายบ้าง มีไปใส่ปุ๋ยบ้างตามวาระ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะปล่อยให้เติบโตและออกผลเอง จึงเป็นที่มาของชื่อทุเรียนเทวดาเลี้ยง

ทุเรียนลับแล...แยกยังไง

ทุเรียนหลงลับแล และทุเรียนหลินลับแล เป็นทุเรียนกลิ่นอ่อน ลูกเล็ก หนักไม่เกิน 2.5 กิโลกรัม

"หลงลับแล" ลูกกลม เนื้อสีเหลืองทอง เนื้อเนียน รสชาติหวาน เม็ดเล็ก

"หลินลับแล" จะเป็นลูกทรงประบอกแบบมะเฟือง เนื้อเหนียว รสชาติหวานมัน เม็ดเล็กรีบ นะจ๊ะ

สำหรับแฟนจ๋าที่สนใจมาทำกิจกรรมแบบนวลสามารถติดต่อ พี่นิด ผู้ประสานงานทริปได้เลยนะครับ
พี่นิด โทร 087-521-2432

มันอาจเป็นมื้อเที่ยงที่แสนธรรมดาที่ลุงสิงห์ห่อใส่ย่ามกะเปอะให้นวลไปกินที่สวนด้วย แต่คงอบอวลไปด้วยความสุข ความรู้ และแนวคิดต่างๆ

เราได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันมากมาย การสนทนาระหว่าง "เจ้าบ้าน" และ "ผู้มาเยือน" ระหว่างมื้อเที่ยงของเรา ทำให้นวลยิ่งตระหนักถึงการเที่ยวชุมชนที่แท้จริงคือ "เราต้องเคารพ และให้เกียรติในตัวบริบทของชุมชน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนนั้นๆ การเอาตัวเองลงไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน จะทำให้เราได้เรียนรู้วิถีอย่างแท้จริง เราต้องไม่ไปเปลี่ยนวิถีชีวิตของเขา แต่การท่องเที่ยวเป็นเพียงหนึ่งในบทบาทที่เขาได้ถ่ายทอดวิถีให้กับเรา"

“ตลาดหัวดง” ต.แม่พูล เป็นสถานที่ที่คึกคักที่สุดในหน้าทุเรียนเช่นนี้ ตลาดหัวดงอยู่ใกล้กับเทศบาลตำบลหัวดง อำเภอลับแล เป็นแหล่งจำหน่ายทุเรียนหลง-หลินลับแลที่ใหญ่ที่สุดในลับแล มาที่นี่รับรองไม่มีผิดหวัง มีร้านขายทุเรียนให้เลือกหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นในตลาดที่มีบรรยากาศเหมือนตลาดนัดเปิดโล่ง หรือบริเวณด้านหน้าตลาดริมถนนที่เปิดร้านขายทุเรียนเป็นห้องๆ เรียงกันไป

ราคาของทุเรียนที่นี่ก็จะเท่าๆ กัน ถ้าเป็นหลง-หลินลับแลเกรดเอลูกสวยๆ คัดมาอย่างดีราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 400-450 บาท เกรดรองลงมาก็ราวๆ 250-350 บาท นอกจากนั้นก็ยังมีทุเรียนพันธุ์อื่นที่ปลูกในลับแล เช่น หมอนทองลับแล ชะนีลับแล ราคาจะอยู่ที่ราวๆ กิโลกรัมละ 120-140 บาท

ก่อนกลับนวลแวะไปที่น้ำตกแม่พูล เป็นน้ำตกที่เกิดจากการตกแต่งธารน้ำ โดยการเทปูนให้น้ำไหลลดหลั่นจากบนเขาสูงลงมา ดูคล้ายน้ำตกธรรมชาติ สูงหลายชั้น สภาพโดยรอบนั้นมีความร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ครับ

สำหรับที่พักในลับแลครั้งนี้ของนวล นวลพักที่ลับแลเกสเฮ้าส์ เป็นที่พักที่น่ารักมาก เป็นบ้านไม้โบราณแบบออริจินัลเลยเป็นบ้านของพ่อค้าเก่า คุณเบนเจ้าของบ้านพักได้เช่าและใช้เวลาปรับปรุงไปเรื่อยๆ ใช้เวลาถึง3ปีกว่าจะทำเป็นเกสเฮ้าส์ ราคาที่พักก็น่ารักที่สุดในโลก ถูกจนตกใจ ราคาต่อ 2 คน 1,000บาทรวมอาหารเช้าแบบท้องถิ่น มีสบู่ ยาสีฟันให้ มีจักรยานให้ขี่เที่ยวฟรีๆด้วยนะครับ

นวลเป็นแขกคืนที่ 135 ของพี่เบน เชื่อไหมครับว่าความอบอุ่น และการดูแลที่ดีของพี่เบนทำให้นวลประทัปใจมาก พอดีวันที่นวลเข้าพักน้ำประปาดันไม่ไหล พี่เบนต้องแบกน้ำมาให้เราอาบ แถมยังมีปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ และอาหารเช้าให้อีก ถ้ามีโอกาสไปลับแลอีกนวลจะไปพี่เบนอีกนะครับ

ติดต่อพี่เบนได้เลยนะครับรับรองประทัปใจแบบนวลแน่นวล

พี่เบน โทร 084-502-2361

พิกัด https://goo.gl/maps/Hfs2zF5bTHLopWMu7

ลับแลอาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางในใจ แต่ขอบอกว่าถ้าได้ลองไปสักครั้งแล้วอาจจะหลงรักในเสน่ห์ความเรียบง่าย น่ารัก และความเป็นกันเองของผู้คนที่นี่ก็ได้ครับ แล้วไปเที่ยวลับแลกันนะครับ





ขอบคุณแหล่งที่มา   www.blogger.com

งานแห่เทียนพรรษา อุบลราชธานี 2562 เยือนชุมชนคนทำเทียน และชมขบวนเทียนสุดวิจิตร


ชวนไปเที่ยว งานแห่เทียนพรรษา อุบลราชธานี “118 ปี ประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา เทอดราชาขวัญแผ่นดิน” ระหว่างวันที่ 12 – 17 กรกฎาคม 2562 ณ ทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

ประเพณีแห่เทียนพรรษา อุบลราชธานี ถือเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของภาคอีสาน โดยแต่ละวัด จะมีช่างมาแกะสลักเทียนพรรษาเป็นรูปลวดลายเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและข้อคิดทางธรรมะ จากนั้นจึงส่งขบวนต้นเทียนที่แกะสลักเข้าประกวด ซึ่งแบ่งต้นเทียนเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ประเภทติดพิมพ์ และประเภทแกะสลัก

แต่ก่อนถึงวันงาน บาคาร่า จะเปิดโอกาสให้คนทั่วไปในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวได้ เยือนชุมชนคนทำเทียน ที่อยู่ภายในคุ้มวัดต่างๆ เรียนรู้กระบวนการทำเทียนพรรษาอันงดงาม และหากเป็นเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ ผู้ที่สนใจสามารถลงมือแกะสลักลายบนเนื้อเทียน ก่อนนำไปประดับติดพิมพ์บนต้นเทียนพรรษา ตามแบบที่ช่างได้ขึ้นรูปไว้

สำหรับปีนี้มี ชุมชนคุ้มวัด ทั้งสิ้น 10 แห่งด้วยกัน ได้แก่ ชุมชนวัดบูรพา ชุมชนวัดมหาวนาราม ชุมชนวัดผาสการาม ชุมชนวัดใต้ ชุมชนวัดศรีประดู่ ชุมชนวัดไชยมงคล ชุมชนวัดพลแพน ชุมชนวัดพระธาตุหนองบัว ุชุมชนวัดแจ้ง และชุมชนวัดศรีอุบลรัตนาราม

ชุมชนคนทำเทียน วัดมหาวนาราม (วัดป่าใหญ่) เทียนประเภทติดพิมพ์

รายละเอียดกิจกรรม

วันที่ 1 – 17 กรกฎาคม 2562 เยือนชุมชนคนทำเทียน ณ คุ้มวัดต่างๆ ในอำเภอเมืองและอำเภอวารินชำราบ

วันที่ 12 กรกฎาคม 2562
พิธีอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานและผ้าอาบน้ำฝนพระราชทาน และ พิธีเปิดงานเทศกาลประเพณีแห่เทียนเข้าพรรษา ณ หน้าศาลหลักเมือง

วันที่ 12 – 17 กรกฎาคม 2562
ถนนสายเทียน และงานอุโมงค์เทียน ณ หน้าศาลหลักเมือง ทุ่งศรีเมือง

วันที่ 13 กรกฎาคม 2562
ชมการประกวดหนูน้อยเทียนพรรษาอุบลราชธานี ณ หน้าศาลหลักเมือง

วันที่ 15 กรกฎาคม 2562
ชมประกวดสาวงามเทียนพรรษา ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์

วันที่ 16 กรกฎาคม 2562
เวลา 18.00 น. กิจกรรมรวมเทียนโชว์ต้นเทียนทุกต้น ณ บริเวณรอบทุ่งศรีเมือง และพิธีมหาเวียนเทียน วันอาสาฬหบูชา ณ วัดศรีอุบลรัตนาราม

วันที่ 17 กรกฎาคม 2562
เวลา 08.30 – 12.00 น. ชมขบวนแห่เทียนพรรษาที่สวยงามตระการตา ประกอบด้วย เทียนพรรษาประเภทแกะสลัก ประเภทติดพิมพ์ และเทียนโบราณ ตามเส้นทางถนนอุปราช-ถนนชยางกูร ซึ่งมีการแสดง 5 จุด คือ

1. หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม
2. ศาลากลางหลังเก่า
3. หน้าโรงแรมบัวบูติก
4. หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ (กิโลศูนย์)
5. หน้าปั้มน้ำมัน Esso

วันที่ 16 – 17 กรกฎาคม 2562
เวลา 19.00 น. ชมการแสดงขบวนแห่เทียนภาคกลางคืน ประกอบ แสง สี เสียง และขบวนเรือชักพระ จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ บริเวณหน้าศาลากลาง (หลังเก่า)

ทั้งนี้ เทศบาลนครอุบลราชธานีจะทำการประดับไฟ ตกแต่งเมือง และติดตั้งที่นั่งอัฒจันทร์บริการนักท่องเที่ยวฟรี!




ขอบคุณแหล่งที่มา   www.blogger.com

Saturday, July 6, 2019

ชมดอกกล้วยไม้ และพญาเสือโคร่งบาน ที่ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์


พญาเสือโคร่งบาน ที่ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์

ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตื์ พระบรมราชินีนาถ บาคาร่า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัยและเพาะพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี เนื่องจากเป็นกล้วยไม้หายากและใกล้จะสูญพันธุ์เต็มที ภายในรายล้อมไปด้วยทิวสน สวนหิน อ่างน้ำธรรมชาติ และพรรณไม้นานาชนิด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย ซึ่งตอนนี้ (11 ธันวาคม 2561) หลาย ๆ ต้นเริ่มทยอยผลิดอกสีชมพูอมขาว บริเวณรอบริมทะเลสาบ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและเก็บภาพความประทับใจกันแล้ว คาดว่าปลายเดือนนี้จะบานเต็มที่แน่นอน

ลมหนาวพัดผ่านมาทักทาย อากาศเย็นสบายแบบนี้  Travel.MThai เลยอยากชวนเพื่อน ๆ ไปชมดอกกล้วยไม้สวย ๆ และดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่กำลังเบ่งบานอยู่ริมทะเลสาบของ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่







ขอบคุณแหล่งที่มา   www.blogger.com

Friday, July 5, 2019

พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ที่เที่ยวใหม่ของปทุมธานี ทดลองชมฟรี ถึง 14 ก.ค. 62


พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า แบ่งโซนจัดแสดงเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ บ้านของเรา (Our Home) ชีวิตของเรา (Our Life) ในหลวงของเรา (Our King)

บ้านของเรา (Our Home)เรื่องราวของการก่อกำเนิดจักรวาลระบบสุริยะ และโลก ไปจนถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ประกอบด้วยส่วนจัดแสดง ดังนี้

BIGBANG
สรรพชีวิตบนโลกเป็นผลสืบเนื่องมาจากการระเบิดครั้งใหญ่ บาคาร่า หรือ Big Bang ซึ่งก่อให้เกิดจักรวาล ระบบสุริยะ และโลกของเรา

SHELTER
จัดแสดงเเบบจำลองการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก เเบบจำลองการหมุนรอบดวงอาทิตย์ทำให้เกิดกลางวันกลางคืน วัฏจักรของน้ำที่ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำภายในโลก และยังมีหินหายากหลากหลายแบบให้ได้ชม

LIFE
ชีวิตบนโลกเริ่มต้นขึ้นจากการเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ต่อมาอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตปรับตัว จนมีรูปแบบที่ซับซ้อนขึ้น และถ่ายทอดลักษณะต่างๆ สู่ลูกหลานผ่านดีเอ็นเอ

EVOLUTION AND MASS EXTINCTION
โซนวิวัฒนาการของสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ ก่อนจะเผชิญกับการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่หลายครั้ง มีไดโนเสาร์เคลื่อนไหวได้เฝ้าโซนนี้อยู่สองตัว คือ สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส และ ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน

HUMAN ODYSSEY
โซนวิวัฒนาการของมนุษย์ สายพันธุ์มนุษย์ถือกำเนิดขึ้นมาตอนไหน? มีชีวิตและความเป็นอยู่ยังไง? สามารถค้นหาคำตอบได้จากส่วนจัดแสดงนี้ค่ะ

ชีวิตของเรา (Our Life)จัดแสดงระบบนิเวศของทุกมุมโลก ตั้งแต่หนาวสุดขั้ว ไปจนถึงแห้งแล้งแบบทะลทราย ได้แก่ Antarctica, Arctic, Tundra, Taiga, Desert, Temperate และ Tropical

Antarctica เขตขั้วโลกใต้ เป็นถิ่นอาศัยของเพนกวิ้น และกลุ่มมนุย์ที่เรียกว่า นักวิจัย

ARCTIC เขตขั้วโลกเหนือ พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง เป็นถิ่นอาศัยของ หมีขาว วาฬ วอลรัส แมวน้ำ และมนุษย์ชาวอินูอิท โซนนี้มีกิจกรรมให้เด็กๆ สร้างบ้านน้ำแข็ง Igloo กันด้วย

DESERT (เขตทะเลทราย) มีอูฐกับต้นกระบองเพชรให้ดู แต่ไฮไลท์อยู่ที่ภาพยนตร์ 4D เป็นการจำลองฉากเหมือนเรานั่งรถเข้าไปในทะเลทราย เห็นสภาพแวดล้อมรอบข้าง มีเอฟเฟคจริง ทั้งฝน ทั้งกลิ่น ซึ่งรอบนึงจะจำกัดแค่ 30 คน และต้องรับบัตรก่อน 15 นาที

TUNDRA เป็นเขตที่มีฤดูหนาวค่อนข้างยาวนาน และมีช่วงอากาศอบอุ่นสั้นๆ ประมาณ 50-60 วัน

TAIGA เป็นป่าสนเขตหนาว โซนนี้มีจัดแสดงวัฎจักรของปลาแซลมอน มีวีดีโอให้ดูด้วยว่าปลาแซลมอนวางไข่ยังไง วงจรชีวิตเป็นยังไง

TEMPERATE (เขตอุบอุ่น) โซนนี้เด็กๆ น่าจะชอบ เพราะมีสไลเดอร์บนต้นโอ๊คยักษ์ ให้สไลด์เล่นกันด้วย

TROPICAL (เขตร้อน) เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และแตกต่างกัน นำเสนอผ่าน 5 พื้นที่สำคัญ ได้แก่ Africa, Madagascar, Neotropic, Southeast Asia และ Papua New Guinea โซนนี้จะเจอหุ่นสัตว์ต่างๆ ในป่าเขตร้อน อย่าง ช้าง เสือดาว ลิเมอร์ (สัตว์บนเกาะมาดากัสการ์) ฯลฯ

TAHILAND ECOSYSTEM SERVICE : SOIL
เรียนรู้ถึง คุณสมบัติของดินที่เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ต่างๆ การบริหารจัดการดินเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และสมดุลระหว่างมนุษย์กับทรัพยากรธรรมชาติ

THAILAND ECOSYSTEM SERVICE : WATER
นำเสนอตั้งแต่วัฏจักรของน้ำ ในประเทศไทย การใช้ประโยชน์จากน้ำ แนวคิด และวิธีบริหารจัดการ รวมทั้งปัญหาของน้ำและวิธีการแก้ไข

THAILAND ECOREGION ภูมินิเวศไทย และวนนิเวศ ในประเทศไทย
โซนนี้จะจัดแสดงพื้นที่ป่าที่แตกต่างกัน 4 แห่ง คือ ป่าดิบเขา, ป่าเต็งรัง, ป่าดิบชื้น และป่าพรุ มีการจำลองสถานที่เก็บของป่าผิดกฏหมาย ทั้งซากไม้ ซากสัตว์ ส่วนไฮไลท์ที่ว้าวสุดๆ นั่นคือ น้ำตกจำลองขนาดใหญ่ในอาคาร สร้างได้เรียลมากๆ เหมือนเดินเข้าป่าจริงๆ

ในหลวงของเรา (Our King)โซนนี้จะนำเสนอถึง หลักการคิด วิธีการทรงงาน และกระบวนการค้นหาคำตอบ ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ทรงนำไปแก้ปัญหาพระราชทานแก่พสกนิกรในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย มีการจัดแสดงรถพระที่นั่ง ห้องทรงงาน ของเล่นสมัยที่ท่านทรงพระเยาว์ รวมถึงพระราชดำริต่างๆ เช่น การปลูกหญ้าแฝก การทำฝนเทียม การทำกังหันน้ำ เป็นต้น

พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า เปิดทดลองให้เข้าชมตั้งแต่วันนี้ – 14 กรกฎาคม 2562 ในช่วงทดลองนี้ เข้าฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย และคาดว่าจะเปิดจริงประมาณเดือนตุลาคม 2562

เวลาเปิด-ปิด :
วันอังคาร-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.30-16.00 น.
วันเสาร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.30-17.00 น.
หยุดทุกวันจันทร์

Thursday, July 4, 2019

ปักหมุดเที่ยว ‘Legend Siam’ สวนสนุกเชิงวัฒนธรรม แห่งแรกในเมืองไทย



Legend Siam สวนสนุกเชิงวัฒนธรรม (Thai Cultural Theme Park) ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ตำนานแห่งสยาม’ สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ของคนไทยทุกยุคสมัย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย 3 โซนหลัก ได้แก่

โซนสยามวิไลซ์
แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วน บาคาร่า Town Square และ Thai Machine

Town Square หรือจตุรัสพระนคร ในธีมความศิวิไลซ์แห่งเมืองสยาม ผ่านสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัย อันวิจิตรตระการตา หลงไหลไปกับตำนานพระอินทร์และช้างเอราวัณ อีกทั้งยังมีสินค้าไทยให้เลือกจับจ่ายด้วย

Thai Machine เครื่องซิมูเลเตอร์ ที่จะพาเราย้อนเวลาไปดูวิถีความเชื่อและความศรัทธาของคนไทย นำมาผสมผสานกับแฟชั่น ที่แสดงถึงความเป็น Thailand Only

โซนไทยอารยะ
โซนนี้จะพาผู้ชมเข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตของคนไทยในอดีตถึงปัจจุบันผ่านเครื่องเล่น และ Attractions ต่างๆ  แบ่งเป็น 5 กิจกรรมย่อย คือ

โซนงานวัด เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นงานวัดนานาชนิด ทั้งม้าหมุน ปาโป่ง ไวกิ่ง

เกษตรวิถีไทย เรือนปลายนา สานต่องานที่พ่อสร้างกับเกษตรวิถีไทย ศาสตร์แห่งพระราชา ที่รายล้อมด้วยป่าไม้จำลอง และท้องน้ำเลข ๙  มีกระท่อมปลายนาให้พักพิง มีเถียงนาสำหรับเป็นพื้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวสาระความรู้ การสาธิตต่างๆ ให้ชนรุ่นหลังได้มีโอกาสเรียนรู้วิถีชีวิตแบบชนบทได้อย่างถ่องแท้ และขาใหญ่ประจำถิ่นที่ขาดไม่ได้ คือ เจ้าบุญลือ-บุญล้น ที่ใครมาเป็นต้องขอร่วมเฟรมด้วย

ตำนานช้างเผือกไทย ชมขบวนพาเหรดโขลงช้าง ที่แสดงถึงพิธีกรรมโบราณเกี่ยวกับช้างเผือก และเครื่องคชาภรณ์ของช้างที่หาชมได้ยาก รวมไปถึงตำนานช้างทรงคู่บารมีพระมหากษัตริยไทย

ที่ตั้ง: ถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ 162 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เปิดให้เข้าชมทุกวัน 10.30 – 20.00 น.



ขอบคุณแหล่งที่มา   www.blogger.com

Tuesday, July 2, 2019

ที่เที่ยวสมุทรปราการ “เมืองปากน้ำ” ที่ห้ามพลาด!

จังหวัดสมุทรปราการ หรือที่เราเรียกกันว่า เมืองปากน้ำ .. จังหวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา มีความสำคัญเพราะเป็นเมืองปลายสุดของแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 29 กิโลเท่านั้น ซึ่งที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจซ่อนตัวอยู่หลายที่เลยล่ะ ทั้งธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว และอาหารการกิน มีเวลาวันเดียวก็เที่ยวได้ บาคาร่า แถมเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ^^

1. บางกระเจ้า



บางกระเจ้า หรือ เกาะสีเขียว ที่มีพื้นที่มากถึง 11,000 ไร่ โอบล้อมด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา จนได้รับการยกย่องให้เป็นปอดของกรุงเทพ และ Best Urban Oasis of Asia จากนิตยสารไทม์ โดยนักท่องเที่ยวสามารถข้ามเกาะไปปั่นจักรยาน ดูนก ดูป่าชายเลน และสัมผัสกับอาการบริสุทธิ์ได้














ขอบคุณแหล่งที่มา   www.blogger.com