คาสิโนออนไลน์

คาสิโนออนไลน์
คาสิโนออนไลน์

Sunday, March 31, 2019

ท่องเที่ยวไปด้วยกัน ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน อุดรธานี

ศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน


 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุดรธานี บริเวณเดียวกันกับศาลเจ้าปู่ย่า สถานที่ตกแต่งโดยจำลองบรรยากาศแบบจีน เหมือนยกเมืองจีนมาไว้ใจกลางอุดร โดยสร้างขึ้นเพื่อเชิดชูองค์เจ้าปู่เจ้าย่า ที่เป็นที่เคารพและศรัทธาของชาวอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งเป็นแหล่งในการสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของชาวจีนที่อพยพจากประเทศจีนมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในจังหวัดอุดรธานี  เป็นสถานที่สงบ เย็นสบาย เเละสวยงามมาก






เมื่อด้านเข้ามาบริเวณด้านหน้าจะพบกับสระน้ำขนาดเล็กที่มีฝูงปลาคราฟสีสวยงามแหวกว่าย บรรยากาศร่มรื่นเหมาะแก่การท่องเที่ยวและพักผ่อน  มีมุมให้ถ่ายรูปหลายมุม




รูปปั้นหินอ่อนสีหยกขาว ที่แกะสลักหินอ่อนเป็นรูปท่านมหาปราชญ์“ขงจื่อ” ตั้งโดดเด่นริมสระน้ำ  ซึ่งเป็นหินที่นำมาจากเมืองชวีฟู่ มณฑลซานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน บ้านเกิดของมหาปราชญ์ขงจื่อ มอบให้ศูนย์วัฒนธรรมไทย – จีน อุดรธานี



สำหรับใครที่อยากถ่ายรูปเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศสถานที่มีชุดจีนให้เช่าในราคาเริ่มต้นเพียง 50 บาทเท่านั้น






เดินเข้าไปข้างในสุดจะพบกับสะพานข้ามสระน้ำและศาลาพักผ่อนแบบจีนที่มีความวิจิตรงดงาม
เดินมาอีกโซนจะพบกับภาพปูนปั้นและภาพถ่ายตามห้องต่างๆ ให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยจีนและอีกหลายแง่มุมของชาวจีนที่เข้ามาอยู่ในเมืองไทย เป็นสถานที่จัดทำมาอย่างปรานีต ใส่ใจทุกรายละเอีย
บรรยากาศด้านหน้าของศูนย์วัฒนธรรมรรมไทย-จีน เป็นร้านขายของที่ระลึก และร้านขายเครื่องดื่ม
หากมีโอกาสได้ไปเที่ยวอุดรอย่าลืมมาเที่ยวศูนย์วัฒนธรรมรรมไทย-จีน ไหว้ศาลเจ้าปู่ย่าแวะมาขอพรขอให้มีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และยังเป็นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สวยงามที่ไปแล้วรู้สึกคุ้มค่ามาก



วันและเวลาทำการ

เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 19:00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม

โทร 082-7070666

คลิ๊ก เฟสบุค



การเดินทาง

ให้ขับรถมาทาง UD Town ผ่านโรงพยาบาลเอกอุดรมาตาม ถนนโพศรี ผ่านยูดีทาวน์ด้านซ้ายมือให้ขับตรงไปประมาณสองร้อยเมตรจะเห็นประตูทางเข้าอยู่ด้านซ้ายมือ ขับรถตรงไปก็จะเจอ ศูนย์วัฒนธรรมไทย จีน อุดรธานี อยู่ด้านขวามือ

ขอบคุณแหล่งที่มา www.paiduaykan.com

Saturday, March 30, 2019

เที่ยวทะเลบัวแดง จังหวัดอุดรธานี

ทะเลบัวแดง 



ตั้งอยู่ในอำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี อยู่ในบึงน้ำจืด บึงหนองหาน แหล่งน้ำธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไป ด้วย พันธุ์ปลา พันธุ์นก และพืชน้ำ จำนวนมาก โดยดอกบัวจะออกดอกมีปริมาณมากที่สุดในช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ และค่อย ๆ ลดปริมาณ ลงในเดือนมีนาคม ดอกบัวจะบานในช่วงเช้าตรู่จนถึงเวลาประมาณ 11.00 น. นักท่องเที่ยวจะมองเห็น ดอกบัวแดง บานเต็มท้องน้ำ หนองหานสุดลูกหูลูกตางดงาม อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จึงเป็นที่มาของคำว่า ทะเลบัวแดง ซึ่งในทุกปี นักท่องเที่ยว สามารถความงดงามของทะเลบัวแดง หนองหานกุมภวาปี ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนธันวาคม จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี  มีงานเทศกาลทะเลบัวแดงบาน หนองหานกุมภวาปี ณ วัดบ้านเดียม ตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี

ดอกบัวบานเต็มที่ช่วงใด ก่อนเดินทางให้สอบถามไปที่ ที่ทำการปกครองอำเภอกุมภวาปี โทรศัพท์ 042 - 334 - 446  สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี โทรศัพท์  042 - 325 - 496, 042 - 326 - 436 

รายละเอียดเพิ่มเติม

- ที่ทำการปกครองอำเภอกุมภวาปี โทรศัพท์ 042 334 446  สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี โทรศัพท์  042 325 496  042 326 436 
- บริการล่องเรือชมทะเลบัวแดง เวลา 06.00 – 11.00  น. ทุกวัน ณ ท่าเรือบ้านเดียม ตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี
- เรือบริการขนาดเล็ก นั่งได้ 2-3คน คิดค่าบริการคนละ 150 บาท ต่อเที่ยว
- เรือบริการขนาดใหญ่ นั่งได้ 6-10 คน ราคาลำละ 600 บาท
- ใช้เวลาล่องเรือไม่เกิน 1 ชั่วโมง 30 นาที
- ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการล่องเรือชมดอกบัวแดงบาน คือ เวลา 06.00-11.00 น. แต่สามารถชมธรรมชาติหนองหานและ นกนานาพันธุ์ได้ตลอดวัน
สัมผัสทะเลบัวแดงหมื่นไร่พร้อมรับประทานอาหารเช้าบนเรือกับบรรยากาศเย็นสบายๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นางขันแก้ว แสนนางชน ประธานกลุ่มโฮมสเตย์บ้านเดียม โทรศัพท์  086 222 2486  นางพวงทอง อุดชาชน ประธานกลุ่มโฮมสเตย์บ้านเชียงแหว คุณไพรสิทธิ์ สุขรมย์ โทรศัพท์  089 3950 087 , 083 349 5673 หรือโทร  คุณอเนก นวลไชยดี 081 769 6031
การเดินทางไปทะเลบัวแดง
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
ทะเลบัวแดง ห่างจากจังหวัดอุดรธานี ประมาณ 45 ก.ม. จากเมืองอุดรธานีใช้ทางหลวงหมายเลข 2 (อุดรธานี-กุมภวาปี) ถึงกิโลเมตรที่ 26 เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางห้วยสามพาด-อำเภอประจักษ์ศิลปาคม ประมาณ 18 กิโลเมตร นอกจากทะเลบัวแดงแล้วที่ อำเภอกุมภวาปี
2. รถโดยสารประจำทาง
สามารถนั่งรถทัวร์กรุงเทพ – อุดรธานี แล้วไปลงที่อำเภอกุมภวาปี หลังจากนั้นก็เหมารถสองแถวในอำเภอมาเที่ยวเทศกาลดอกบัวแดง

ขอบคุณแหล่งที่มา www.paiduaykan.com

เที่ยวจังหวัดอุดรธานีพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี

พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี  



กับรูปแบบการเล่าเรื่องและนำเสนอด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยน่าสนใจ ภายใต้รูปแบบอาคารเก่าแก่ที่จะทำให้เราลืมภาพของการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัดในแบบเดิม พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี จัดตั้งขึ้นในอาคารราชินูทิศ ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชการที่ 6  ตั้งอยู่ในเมืองอุดรธานี ใกล้กับหนองประจักษ์  โดยจัดแสดงเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับจังหวัดอุดรธานีนับตั้งแต่ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ธรรมชาติวิทยา ธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และศิลปวัฒนธรรม รวมถึงพระประวัติและพระเกียรติคุณของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี

เมื่อมาถึงพิพิธภัณฑ์จะเจอกับอาคารศูนย์บริการพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี คืออาคารที่สร้างใหม่ซึ่งอยู่ข้างๆ อาคารราชินูทิศ ภายในอาคารศูนย์บริการฯ ประกอบไปด้วยพื้นที่รับบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ พื้นที่ขายของที่ระลึก พื้นที่แสดงนิทรรศการหมุนเวียน สำนักงาน ห้องน้ำ ร้านกาแฟ และระเบียงชมหนองประจักษ์ ระหว่างทางเดินที่เป็นกำแพงอิฐในยามที่แสงส่องกระทบผ่านลวดลายฉลุของอาคาร กลายเป็นมุมถ่ายภาพที่เก๋ไม่น้อย

มาถึงตัวพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี เป็นอาคาร 2 ชั้น  เป็นอาคารแบบโคโลเนียลที่นำรูปแบบองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมคลาสสิกมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับภูมิอากาศเขตร้อน ก่อด้วยอิฐถือปูน หลังคาทรงปั้นหยา หน้าต่างโค้ง มีมุขยื่นออกมาด้านหน้าซุ้มประตู พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี ถือเป็นอาคารเก่าแก่ของเมืองอุดรธานี ที่มีการปรับปรุงมาต่อเนื่อง โดยในปี 2557 เทศบาลนครอุดรธานี ได้ดำเนินโครงการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี เพื่อบูรณะและพัฒนาอาคารแห่งนี้ เพื่อใช้เป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ของอุดรธานี โดยการทาสีอาคารใหม่จากสีขาวเป็นสีเหลือง และมีการก่อสร้างอาคารต้อนรับเพิ่มเติม รวมทั้งนำเทคโนยีเข้ามาช่วยให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ

สำหรับพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี มีทั้งหมด 26 ห้อง แบ่งเป็นชั้นล่าง 11 ห้อง ชั้นบน 15 ห้อง เช่น ห้องเมื่อพื้นดินอีสานอยู่ใต้ทะเล  ห้องเกี่ยวกับบุคคลสำคัญที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับเมืองอุดรธานี ห้องของดีเมืองอุดรธานี แหล่งท่องเที่ยว และห้องต่างๆที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับ จ.อุดรธานี ทั้งประวัติศาสตร์ โบราณคดี ธรรมชาติวิทยา ธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และศิลปวัฒนธรรม รวมถึงพระประวัติและพระเกียรติคุณของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี  ด้วยการนำเทคโนยีที่ทันสมัยมาช่วยในการนำเสนอ ปรับแต่งบรรยากาศให้มีมุมถ่ายภาพชิคๆ ทำให้การเที่ยวพิพิธภัณฑ์ไม่น่าเบื่อ มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น

ความน่าสนใจของพิพิธภัณฑ์อยู่ที่ชั้น 2 ที่จัดแสดงเรื่องราวต่างๆ มีมุมถ่ายภาพน่ารักชวนยิ้มมากมาย เป็นการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่สร้างความตื่นเต้นให้ได้อย่างมาก ห้องวิถีชีวิตของชาวอุดร จำลองคล้ายกับห้องเรียน

ห้องสุดท้ายเกียวกับการปรับตัวของชาวอุดรธานีในสภาพเศรษฐกิจที่พลิกผัน เพิ่มความน่าสนใจด้วยพรอพประกอบฉากเป็นรถตุ๊กๆ ที่ใช้โดยสารกันภายในจังหวัด


พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี

ที่ตั้ง : ถนนโพศรี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี

ช่วงเวลาทำการ : 08.30 – 16.00 น. ปิดทุกวันจันทร์

ไม่เสียค่าเข้าชมแต่สามารถหย่อนตู้เพื่อบำรุงพิพิธภัณฑ์ได้ตามศรัทธา

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.paiduaykan.com

Friday, March 29, 2019

เที่ยวชมแม่น้ำ2สีจังหวัดอุบลราชธานี


แม่น้ำสองสี



 อีกหนึ่งสถานที่น่าท่องเที่ยวของจังหวัดอุบลราชธานี ปรากฏการของแม่น้ำสองสายที่ไหลมาบรรจบกัน เกิดการเปรียบต่างสีน้ำของแม่น้ำ ทั้งสองสาย คือ แม่น้ำมูลที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหน้าน้ำหลากจะเห็นแม่น้ำทั้งสองสายที่ไหลมาบรรจบกันเป็นสองสีอยู่คนฝากฝั่ง อย่างชัดเจน ผู้คนพากันเรียกว่า “โขงสีปูน มูลสีคราม” นอกจากชมความอัศจรรย์ของแม่น้ำสองสีแล้ว ยังสามารถล่องเรือไปตามลำน้ำมูล และลำน้ำโขง เพื่อชมทัศนียภาพ ของธรรมชาติ และผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ริมสองแม่น้ำทั้งสองฝากฝั่ง แม่น้ำสองสี “โขงสีปูน มูลสีคราม” ปรากฏการแม่น้ำไหล รวมกันเป็น สองสีเกิดขึ้นในบริเวณ ดอนด่านปากแม่น้ำมูล บ้านเวินบึก ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี โดยแม่น้ำมูลที่มีสีออกสีคราม จะไหล ไปรวมกับแม่น้ำโขงที่สีออกจะขุ่นๆเป็นสีปูน เกิดเป็นแม่น้ำโขงที่มีสีของน้ำสองสี ก่อนจะค่อยๆรวมกันและเป็นสีเดียวกัน จุดที่สามารถชม แม่น้ำสองสีได้ คือบริเวณ ลาดริมตลิ่งหน้าวัดโขงเจียม และที่หมู่บ้านห้วยหมาก โดขสามารถนั่งเรือไปได้ โดยจอดรถไว้ที่บริเวณท่าเรือแม่น้ำโขง อำเภอโขงเจียม แล้วนั่งเรือไปชมความสวยงามของ แม่น้ำสองสี จากจุดชมวิวทั้งสองจุด นอกจากชมแม่น้ำสองสี แล้วยังมีสถานที่น่าสนใจในบริเวณนี้อย่าง ร้านอาหารที่ ทำจากปลาสดๆที่จับได้จาก แม่น้ำมูล และแม่น้ำโขง หรือจะข้ามไปเที่ยวตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน ลาว เที่ยวตลาดยามเช้าในอำเภอโขมเจียม ไปชมเขื่อนปากมูล น้ำตกและถ้ำเหวสินธุ์ชัย วัดถ้ำคูหาสวรรค์ และท่าปลาริมโขง
การเดินทางไปแม่น้ำสองสี
เริ่มต้นเดินทางกันจากอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เดินทางไปทางทิศตะวันออก มุ่งหน้าสู่อำเภอโขมเจียม ใช้เส้นทางหมายเลข 2222 ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหมายเลข 2137 อีกประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ แล้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ อำเภอโขมเจียม อีกประมาณ 1 กิโลเมตร จนไปถึงดอนด่านปากแม่น้ำมูล บ้านเวินบึก ก็เป็นอันถึงที่หมาย

ขอบคุณแหล่งที่มา www.paiduaykan.com

Thursday, March 28, 2019

เที่ยวน้ำตกตาดโตน อุบลราชธานี


น้ำตกตาดโตน 



เป็นน้ำตกขนาดเล็ก แต่มีความสวยงามไม่แพ้น้ำตกอื่นๆ น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองไปประมาณ 90 กิโลเมตร  เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่ง นี้เกิดจากลำห้วยตาดโตน ที่ส่งกระแสน้ำให้ตกลงสู่ชั้นหินแนวโค้ง ลงสู่พื้นเบื้องล่าง ในลักษณะม่านฝน จนก่อให้เกิดเป็นแอ่งน้ำ  มีน้ำเย็นใสสะอาด เหมาะแก่การลงเล่นน้ำเป็น อย่างมาก  ฤดูกาลท่องเที่ยว เดือนมิถุนายน-ธันวาคมของทุกปี สำหรับการมาเที่ยวชมน้ำตก จะมีความสวยงามที่สุดในปลายช่วงหน้าฝนเข้าสู่หน้าหนาว บริเวณรอบๆน้ำตก จะเต็มไปด้วยป่าไม้นานาพันธุ์ เหมาะแก่การศึกษาความรู้ทางธรรมชาติ

การเดินทางตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 2173 ซึ่งแยกจากทางหลวงหมายเลข 217 เข้าไปประมาณ 6 กิโลเมตร

ขอบคุณแหล่งที่มา www.paiduaykan.com

Tuesday, March 26, 2019

เที่ยวแก่งสะพือ จังหวัดอุบลราชธานี

แก่งสะพือ




แก่งสะพือ เป็นแก่งที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นแก่งที่อยู่ในแม่น้ำมูล ในเขตอำเภอพิบูลมังสาหาร ห่างจากตัวจังหวัด อุบลราชธานีประมาณ 45 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 217แก่งสะพือเป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า"ซำพืด"หรือ"ซำปื้ด" ซึ่งเป็นภาษา ส่วยที่แปลว่า งูใหญ่ หรืองูเหลือมแก่งสะพือ จะมีหินน้อยใหญ่สลับซับซ้อน กระแสน้ำไหลผ่านกระทบหิน แล้วเกิดเป็นฟองขาวมีเสียงดังตลอดเวลา ริมแก่งจะมีศาลาพักร้อนตั้งอยู่ สำหรับให้นักท่องเที่ยวนั่งชมทัศนียภาพของแก่ง ช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม แก่งสะพือจะมีผู้นิยมไป เที่ยวกันมาก เพราะน้ำจะลดทำให้เห็นแก่งได้ชัดเจนและสวยงาม ส่วนในฤดูฝนน้ำจะท่วมแก่ง นอกจากนี้แล้วในเดือนเมษายนของทุกปี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เทศบาลตำบลพิบูลมังสาหาร ก็ได้กำหนดจัดงานประเพณีสงกรานต์แก่งสะพือขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสืบทอดประเพณีอันดีงามไว้ ซึ่งในงานนี้ก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.paiduaykan.com

Sunday, March 24, 2019

เที่ยวอุบลราชธานีวัดสระประสานสุข

วัดสระประสานสุข






วัดสระประสานสุข หรือวัดบ้านนาเมือง ตั้งอยู่ที่บ้านนาเมือง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 5 กิโลเมตร ด้านทิศเหนือของสนามบิน เป็นวัดที่มีพระอุโบสถ แปลกตา สร้างเป็นรูปเรือสุพรรณหงส์ประดับตกแต่งด้วยเซรามิค โดยมีอาจารย์บุญมีเป็นเจ้าอาวาส (ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว) เป็นที่เคารพนับถือของ ชาว อุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจได้แก่หอระฆังประดับเซรามิค พิพิธภัณฑ์หลวงปู่บุญมี และวิหารกลางน้ำเรือธรรม นาคราช หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าวิหารกลางน้ำที่สร้างไว้กลางน้ำบนพญานาคราชรูปร่างคล้ายเรือ ส่วนหัวเป็นพญานาคราช 5 เศียร ทางเดินเข้าวิหาร กลางน้ำเป็นทางเดินด้านหางนาคราช  ด้านหลังของ วิหารกลางน้ำเรือธรรมนาคราช  ส่วนหางของนาคราชมีทางเดินขึ้นลงแยกจากกัน สามารถเดินเข้า ไปชมภายในวิหารซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่ภายใน เป็นที่นิยมของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมวัดที่จะได้ถ่ายรูปกับวิหารกลางน้ำแห่งนี้

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.paiduaykan.com

Saturday, March 23, 2019

เที่ยวเขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี

เขื่อนสิรินธร






เขื่อนสิรินธร เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว สร้างปิดกั้นแม่น้ำลำโดมน้อยอันเป็นสาขา ของแม่น้ำมูล ที่บริเวณแก่งแซน้อย ตำบลช่องเม็ก อำเภอพิบูลมังสาหาร ซึ่งนอกประโยชน์ในการผลิตกำลังไฟฟ้าแล้ว เขื่อนสิรินธรยังเป็นแหล่งประมง และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ของจังหวัดอุบลราชธานี โดยบริเวณเขื่อนได้มีการจัดสร้าง"สวนสิรินธร"เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นักท่องเที่ยวสามารถ การมาชม ทัศนียภาพเหนือสันเขื่อน  รับประทานปลาสดจากร้านอาหารสวัสดิการ  ล่องเรือเที่ยว ถ่ายรูปหรือพักผ่อนภายในสวนหย่อมซึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงาม

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.paiduaykan.com

Friday, March 22, 2019

สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอุบลราชธานี อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม



อุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีเนื้อที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียมอำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบด้วย สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่านานาชนิด มีจุดเด่นที่สวยงามตามธรรมชาติ มากมายเช่นผาชัน น้ำตกสร้อยสวรรค์ เสาเฉลียง ถ้ำปาฏิหารย์ ภูนาทาม ในอดีตชาวบ้านท้องถิ่นที่ทำกินใน บริเวณใกล้เคียง พื้นที่ป่าภูผา น้อยคนนักที่จะเดินทางเข้าไปในป่า ดังกล่าว เนื่องจากมีความเชื่อว่าผาแต้ม เป็นเขตต้องห้าม ภูผาเหล่านี้มี ความศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าเป็นภูผาแห่งความตาย ใครล่วงล้ำเข้าไป มักมีอันเป็นไป อาจเจ็บไข้หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ผาแต้มมีชื่อเสยงโด่งดังเมื่อเมื่อคณะอาจารย์และนักศึกษาภาควิชา มนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากร มีการค้นพบภาพเขียนสีโบราณ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,000-4,000 ปี ได้มาทำการสำรวจและค้นพบ ภาพเขียนสีโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ผาแต้มจึงได้เสนอต่อ กองอุทยาน แห่งชาติ กรมป่าไม้ ขอให้จัดตั้งป่าภูผาในบริเวณผาแต้ม เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้รับการประกาศให้เป็น อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 74 ของประเทศไทยและถือได้ว่า เป็นอุทยานแห่งชาติ แห่งแรกในประเทศไทยที่มีแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเส้นกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยและ ประเทศลาวเป็นแนวเขต อุทยานแห่งชาติที่ยาวที่สุดทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ ทางฝั่งประเทศลาวได้เป็นอย่างดี


อุทยานแห่งชาติผาแต้มจะแบ่งพื้นที่ท่องเที่ยวตามนี้


ย่านผาแต้ม
เป็นจุดท่องเที่ยวหลักของอุทยานฯซึ่งได้รับที่ได้รับความนิยมสถานที่ท่องเที่ยวในย่านผาแต้มรวมเอาพื้นที่บริเวณที่ ทำการอุทยานฯ ศูนย์บริกานัท่องเที่ยว บ้านพัก และลานกางเต้นท์และพื้นที่ใกล้เคียง โดยสามารถเที่ยวได้ตลอดปี
1.ภาพเขียนสี
ผาแต้มเป็นหน้าผาสูงที่สวยงามตามธรรมชาติ บริเวณด้านล่างของหน้าผามีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ปรากฏเรียงรายอยู่เป็นระยะ มีอายุไม่ต่ำกว่าสามพันถึงสี่พันปี ทางอุทยานฯได้ทำทางเดินจากหน้าผาด้านบนลงไป ชมภาพเขียนสีเหล่านี้เป็นภาพเขียนสีที่ยาว ที่สุดในประเทศไทยแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ สัตว์ เครื่องมือเครื่องใช้ สัญลักษณ์ และคนด้านกลุ่มภาพเขียนสีผาแต้มแบ่งเป็น 4 กลุ่ม

1. กลุ่มภาพเขียนสีผาขาม มีทางเดินลงมาจากลานผาแต้มประมาณ 30 เมตร จากนั้นเป็นทางราบริม


หน้าผาเดินไป อีก 400 เมตร จึงจะถึง ภาพค่อนข้างลบเลือนไปมากแล้ว เหลือเพียงร่องรอยคล้ายภาพก้างปลา และลายเส้นทึบ หยักไปมาคล้ายคลื่นน้ำ
2. กลุ่มภาพเขียนสีผาแต้ม จากผาขามเดินไปอีก 300 เมตร ก็จะถึง เป็นกลุ่มภาพเขียนสีที่ขนาดใหญ่ที่สุดมี จำนวนมากกว่า 300 ภาพ เรียงรายเป็นแนวยาวถึง 180 เมตร มีภาพกลุ่มสัตว์ ช้าง ปลา วัว เต่า ภาพมือ เครื่องมือ จับสัตว์น้ำ ภาพคน และภาพลวดลายเรขาคณิต บอกเล่าถึงพิธีกรรม ความเชื่อ วิถีชีวิตของมนุษย์ในยุคจับปลา-ล่าสัตว์สมัยก่อนประวัติศาสตร์
3.กลุ่มภาพเขียนสีผาหมอน มีภาพกลุ่มสัตว์ วัว ควาย ภาพคนถืออาวุธคล้ายธนู อยู่ในทุ่งหญ้าหรือนาข้าว ภาพมือ และภาพลวดลาย เรขาคณิต สะท้อนถึงการเป็นแหล่งชุมชนเกษตรกรรมเพาะปลูกข้าวเก่าแก่ของโลก
4.กลุ่มภาพเขียนสีผาหมอนน้อย มีภาพคนนุ่งกระโปรง ยืนเท้าเอว ลักษณะการวาดแบบกิ่งไม้ภาพสัญลักษณ์ ลวดลาย เรขาคณิต และภาพฝ่ามือกระจายอยู่ทั่วไป


เสาเฉลียง 



อยู่ก่อนถึงผาแต้มประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นเสาหินธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและลมนับล้านปี มีลักษณะคล้ายดอกเห็ด เรียงราย กันอยู่มากมาย ซึ่งหินดังกล่าวจะปรากฏเห็นซากเปลือกหอย กรวด ทราย อยู่ใน เนื้อหิน ซึ่งนักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่า เมื่อประมาณ ล้านกว่าปีมาแล้ว บริเวณนี้คงจะเป็นทะเลมาก่อน ชาวบ้าน บริเวณนี้เรียกเสาหินที่ คล้ายดอกเห็ดนี้ว่า “เสาเฉลียง” ซึ่งแผลงมาจากคำว่า “สะเลียง” ที่หมายถึง “เสาหิน"

น้ำตกสร้อยสวรรค์


ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 2112 ห่างจากตัวอำเภอโขงเจียมประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่เกิด จากลำธาร 2 สายคือ ห้วยสร้อยและห้วยไผ่ที่ไหลจากหน้าผาคนละมาบรรจบกันซึ่งสูงประมาณ 20 เมตร มองดู คล้ายสร้อยที่แขวนคอ
เส้นทางไปน้ำตกสร้อยสวรรค์ประมาณ 800 เมตร



5. ทุ่งดอกไม้ป่าน้ำตกสร้อยสวรรค์ 


ตั้งอยู่บริเวณลานหินด้านบนของน้ำตกสร้อนสวรรค์ ขนาบสองฝั่งของลำห้วย ทุ่งดอกไม้ป่าบนลานหินจะบาน เฉพาะช่วงปลายฝน ต้นหนาว เท่านั้นโดยมีพื้นที่กว้างขวางจรดชายป่าเต็งรังที่อุดมสมบูรณ์ ดอกไม้ป่าบริเวณ ลานหินนี้เป็นต้นเล็กซึ่งมีทั้ง ดอกสร้อยสุวรรณา ดอกดุสิตา ดอกมณีเทวา ดอกทิพย์เกสร หญ้าวัว หยาดน้ำค้าง เป็นต้น นับเป็น เสนห์และ สีสันสำหรับการเที่ยว ชมน้ำตกสร้อยสวรรค์ได้เป็นอย่างดี ช่วงที่เหมาะสมในการท่องเที่ยว คือ ปลายต.ค.-ธ.ค.
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

6.น้ำตกแสงจันทร์ (น้ำตกลงรู)

ก่อนถึงน้ำตกทุ่งนาเมือง 1 กิโลเมตร มีทางแยกขวาที่บ้านทุ่งนาเมืองไปน้ำตกแสงจันทร์ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก ที่มีความสวยงาม และมีลักษณะพิเศษ เกิดจากลำห้วยเล็ก ๆ บนลานหินไหลลอดผ่านหน้าผา หินที่มีลักษณะเป็นรูลงสู่เพิงผาด้านล่าง หากเดินทาง มาชมตอนช่วงเที่ยงวัน ซึ่งแสงอาทิตย์ลอดผ่านรูพอดีจะมอง เห็นสายน้ำตกเหมือนแสงจันทร์ ข้อมูลเพิ่มเติม คลิ๊ก น้ำตกลงรู
น้ำตกสร้อยสวรรค์ น้ำตกสร้อยสวรรค์
น้ำตกสร้อยสวรรค์ น้ำตกสร้อยสวรรค์

7. น้ำตกทุ่งนาเมือง



ห่างจากน้ำตกแสงจันทร์ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็กเกิดจากลำห้วยทุ่งนาเมืองซึ่งเป็นร่องน้ำที่ รองรับน้ำจากภูเขาจึงมีน้ำแค่ ช่วงฤดูฝนเท่านั้น น้ำตกทุ่งนาเมืองมีอยุ่ 2 แห่ง คือ น้ำตกทุ่งนาเมืองน้อยซึ่งเป็น หุบเหวกลางลำธารหิน ตั้งอยู่ก่อนถึงหน่วยพิทักษ์อุทยาน ประมาณ 200 เมตร มีลานจอดรถและลงไป ชมน้ำตก ได้เลย ส่วนน้ำตกทุ่งนาเมือง จะอยู่บริเวณหน่วยพิทกษ์พอดีมีทางเดินไปจุดชมวิว น้ำตก เพียง 15 เมตร และทาง เดินลงไปชมน้ำตกอย่างใกล้ชิดในหุขเขาเบื้องล่าง ซึ่งจะมองเห็นสายน้ำไหลตกมาจากหน้าผาสูง 20 เมตร อย่างสวยงาม ระหว่างทางเดินยังมีีเถาวัลย์ยักษ์ ซึ่งเป็นเถาวัลย์ขนาดใหญ่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำโฆษณาบรั่นดีอีกด้วย

สถานที่ติดต่อ
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตู้ ปณ. 5 ตำบลห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี 34220 โทรศัพท์ :045 318 026 , 045 246 332
สถานที่พักแรม
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีที่พักเป็นบ้านพักของอุทยานไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวทั้งหมด 6 หลัง พักได้หลังละ 4-6 คนมีห้องน้ำ พร้อม เครื่องทำน้ำอุ่นและพัดลม นอกจากนี้ยังมีบริการเต้นท์พักแรมสำหรับนักท่องเที่ยวมีร้านค้าสวัสดิการและร้านขายของที่ระลึกสำหรับ นักท่องเที่ยว
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติผาแต้ม

1. รถยนต์ส่วนตัว
จากกรุงเทพฯ สู่อุบลราชธานีระยะทาง 629 กิโลเมตร คืนแรกควรพักในตัวเมืองอุบลราชธานี จากนั้นใช้เส้นทาง หมายเลข 217 เดินทางต่อมายังอำเภอพิบูลมัง-สาหาร ใช้เส้นทางหมายเลข 2222 มายังอำเภอโขงเจียมจาก โขงเจียมใช้ เส้นทางหมายเลข 2112 มายังผาแต้ม ระยะทางจากโขงเจียม- ผาแต้ม19 กิโลเมตร เที่ยวชมทัศนียภาพของสายน้ำโขง ริมผาแต้มชมภาพเขียน ก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งมีหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ตั้งอยู่ที่นั่น และจาก ผาแต้ม เดินทางต่อมายังบ้านนาโพธิ์กลาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของ น้ำตกสร้อยสวรรค์ น้ำตกนาโพธิ์ และ น้ำตกลงรู ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกันระยะ ทางห่างจากผาแต้มราว 18 กิโลเมตร ผาหินทรายบริเวณกลุ่ม น้ำตกเหล่านี้ถูกสายน้ำกัดกร่อนเป็นรูปทรงงดงามแปลกตา ซึ่งเส้นทางรถยนต์สามารถเข้าถึงน้ำตกได้ แต่หากจะ เดินต่อจากลานน้ำตกเข้าไปยังลานหินระยะทางอีกราว 1 กิโลเมตร ก็จะถึงริมผา สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงไหล คดเคี้ยวอยู่เบื้องล่าง และระหว่างทางเดินจะผ่าน ทุ่งดอกไม้ตามลานหิน งดงามยิ่ง

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.paiduaykan.com

เที่ยววัดพระธาตุหนองบัว

เที่ยววัดพระธาตุหนองบัวอุบลราชธานี



วัดหนองบัว ชาวอุบลนิยมเรียก วัดพระธาตุหนองบัว เป็นวัดที่มีชื่อเสียง และมีความสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี และมีสถาปัตยกรรม ที่งดงามและน่าสนใจ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ควรจะได้แวะมาเที่ยวชมและสักการะสิ่งศักดิ์ที่วัดแห่งนี้ นั่นคือ “พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ” พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์นี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนาในปี พ.ศ. 2500 ได้จำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย ภายในเป็น ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ หลังจากนั้นได้มีการบูรณะและสร้างพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์องค์ปัจจุบันครอบ องค์พระธาตุเดิมไว้
วัดหนองบัว อุบลราชธานี
พระธาตุองค์ใหม่ที่สร้างขึ้นเป็นองค์สีขาว ตัดกับลวดลายสีทองอย่างงดงามวิจิตรบรรจง ภายนอกเป็นภาพนูนต่ำที่องค์พระธาตุด้านนอก บอกเล่าเรื่องราว เกี่ยวกับพระเจ้าสิบชาติ ด้านล่างรอบพระธาตุเป็นพุทธสาวกในบวรพุทธศาสนาส่วนฐานรองรับองค์พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ด้วยพญานาค ครุฑและ ยักษ์สำหรับกำแพงแก้วทั้ง 4 ด้านประดิษฐานพระเจดีย์องค์เล็กไว้ทั้งสี่มุม ลวดลายเทพพนม เทวดาต่าง ๆ บนองค์พระธาตุเล็กนั้นก็มีความงดงาม ไม่แพ้กัน นอกจากนี้ด้านหลังของพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ มีพระวิหารภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน และพระพุทธรูปที่งดงามหลายองค์ นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปกราบไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล
วัดหนองบัว อุบลราชธานี
การเดินทางไปวัดหนองบัว อุบลราชธานี
จากทุ่งศรีเมืองขับรถไปตามถนนอุปราช และถนนชยางกูร ผ่านสถานีตำรวจทางหลวง เลยไปจะพบแยกซ้ายมือเข้าถนนธรรมวิถีจากนั้นขับตรงไปเรื่อย ๆ จะพบกับวัดหนองบัว  

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.paiduaykan.com

Thursday, March 21, 2019

สถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักและได้รับความนิยมของอุบลราชธานี

สามพันโบก อุบลราชธานี



แก่งสามพันโบก  สถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักและได้รับความนิยมของอุบลราชธานี แก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งเกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะ กลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง หรือ 3,000 โบก โบก หรือแอ่ง หมายถึง บ่อน้ำลึกในแก่งหินใต้ ลำน้ำโขง  และคำว่า “โบก”  เป็นภาษาของลาวที่มักนิยมเรียกกัน และจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้งขอด แก่งหินดังกล่าวก็จะโผล่พ้นน้ำกลายเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติสุดอลังการกลางลำน้ำโขง ที่สวยงาม แปลกตา จนชาวบ้านเรียกว่า แกรนด์แคนยอนน้ำโขง


ทางเข้าของแกรนแคนยอนแม่น้ำโขง มีหินสวยงามลักษณะคล้ายหัวสุนัข  ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันต่างๆนาๆ บ้างก็ว่าแต่ก่อนมีเจ้าเมือง เป็นผู้เรืองอำนาจ ประทับใจความงามของสามพันโบก จึงได้ส่งเสนามาศึกษาเพิ่มเติม เมื่อมาแล้วพบขุมทรัพย์เป็นทองคำ จึงให้สุนัข เฝ้าทางเข้าจนกว่าเจ้าเมืองจะออกมา  เมื่อเจ้าเมืองได้เห็นสมบัติ เกิดความโลภกลัวเสนาจะได้ส่วนแบ่งจึงได้ออกไปทางอื่น สุนัขผู้ภักดีก็ เฝ้ารออยู่ตรงนั้นจนตายในที่สุด บางตำนานก็ว่าลูกพญานาคในลำน้ำโขงเป็นผู้ขุดเพื่อให้ เกิดลำน้ำอีกสายหนึ่ง และได้มอบหมายให้สุนัข เป็นผู้เฝ้า ทางเข้าระหว่างการขุดกระทั่งสุนัขได้ตายลงกลายเป็นหินรูปสุนัขในที่สุด


ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.paiduaykan.com

Wednesday, March 20, 2019

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น กาญจนบุรี




อีกหนึ่งน้ำตกที่น่าสนใจในจังหวัดกาญจนบุรีคือ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม มีต้นน้ำมาจากเทือกเขากะลา ซึ่งถือว่าเป็นต้นกำเนิดของทะเลสาบแห่งนี้ น้ำตกมี 7 ชั้นคล้ายกับน้ำตกเอราวัณ แต่ที่นี่เราสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่อุทยาน

เวลาเปิด – ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 20.00 น.

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท มีค่าบริการรถกอล์ฟเข้าไปถึงน้ำตกคนละ 20 บาท ต่อเที่ยว

ขอบคุณแหล่งที่มา https://blog.traveloka.com

Sunday, March 17, 2019

เกาะราชา

เกาะทะเลอันดามัน

       

  เกาะราชา ประกอบไปด้วย "เกาะราชาน้อย" และ "เกาะราชาใหญ่" บนเกาะราชาใหญ่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีที่พักหลากหลายระดับอยู่ที่นี่ เพราะบนเกาะมีหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลรอบ ๆ เกาะก็สวยใส สีฟ้าเทอร์ควอยซ์แบบแทบจะเป็นสีเดียวกับท้องฟ้า และยังใสแจ๋วจนสามารถมองเห็นแนวปะการังและปลาทะเลตัวน้อย ๆ ที่ว่ายวนอยู่รอบ ๆ ได้อย่างชัดเจน ส่วนบนเกาะราชาน้อยมีเพียงหาดเล็ก ๆ ให้ได้ไปเดินเล่นชิล ๆ มีแนวปะการังให้ได้ไปดำน้ำชมปะการังสวย ๆ ใครที่ชอบกิจกรรมดำน้ำ ต้องที่นี่เลย


          ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เมษายนของทุกปี ใช้เวลาเดินทางจากอ่าวฉลองประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง การเดินทางไปเที่ยวเกาะราชาที่สะดวกที่สุดคือการซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริป มีหลากหลายทัวร์บริการ ถ้าพักบนเกาะภูเก็ตสามารถสอบถามทัวร์ได้เลยกับที่พัก ส่วนถ้าจะไปพักบนเกาะราชาใหญ่ก็มีที่พักให้เลือกหลายแบบ ทั้งรีสอร์ท บังกะโล และเกสต์เฮ้าส์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต โทรศัพท์ 0 7621 1036

ขอบคุณแหล่งที่มา https://travel.kapook.com

Saturday, March 16, 2019

สถานที่ท่องเที่ยว เกาะพีพี จังหวัดกระบี่

หมู่เกาะพีพี 




     

หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตนธารา จังหวัดกระบี่ ค่ะ รอบๆ เกาะจะสวยงามมากๆ และเต็มไปด้วยปะการัง ใต้ทะเลที่มีความสวยงามแปลกตามากๆ ด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่มีที่ไหนก็คือ ภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาเป็นชั้นๆ มีถ้ำที่สวยงามใต้ท้องทะเลค่ะ นอกจากนี้ยังมีชายหาดสวยงาม ขาวสะอาด ทรายละเอียดเนียนนุ่มเท้าสุดๆ ลองไปถอดรองเท้าเดินที่นี่รับพลังธรรมชาติบำบัดกันได้เลย !

ขอบคุณแหล่งที่มา http://travel.trueid.net

Friday, March 15, 2019

เที่ยวหมู่เกาะอ่างทองทะเลใต้

สถานที่ท่องเที่ยวทะเลใต้เกาะอ่างทอง, สุราษฎร์ธานี





หมู่เกาะอ่างทอง : Mookoh angtong เกาะอ่างทอง, สุราษฎร์ธานี
หนึ่งในอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีชื่อเสียงที่สุดในฝั่งอ่าวไทย อยู่ห่างจากสมุยไปเพียง 20 กิโลเมตร จึงเป็นที่นิยมของคนที่มาเที่ยวสมุย และซื้อทัวร์ไปเที่ยวแบบ One Day Trip ไฮไลท์แรกอยู่ที่เกาะวัวตาหลับ ที่ตั้งของอุทยานที่มีจุดชมวิวบนยอดเขาซึ่งต้องเดินไต่ผาขึ้นไป สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของหมู่เกาะทั้ง 42 เกาะที่รายล้อมด้วยท้องทะเลสีคราม หรือจะดำาน้ำดูปะการังบริเวณแนวชายหาด นอนอาบแดด เล่นน้ำพักผ่อนก็ได้ปิดท้ายทริปช่วงบ่ายด้วยการไปชมทะเลสาบน้ำเค็มสีเขียวมรกต หรือ "ทะเลใน" ณ เกาะแม่เกาะ ก่อนอำาลาหมู่เกาะอ่างทองไปแบบประทับใจไม่รู้ลืม

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.chillpainai.com

Wednesday, March 13, 2019

หมู่เกาะสิมิลัน

หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา


อีกหมู่เกาะติดอันดับในประเทศไทย และติดอันดับโลก ที่ชีวิตนี้ต้องไปเที่ยวให้ได้สักครั้ง ก็คงจะหนีไม่พ้นอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดพังงา ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์แห่งท้องทะเล เพราะอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันแห่งนี้ เต็มไปด้วยน้ำทะเลที่ใสราวกับกระจก หรือจะเป็นชายหาดที่มองไปทางไหน ก็สวยจนพูดไม่ออกเลยก็ว่าได้ ที่เจ๋งไปกว่านั้นก็คือหมู่ปะการัง หรือหมู่ปลาหลากสีสันน้อยใหญ่ สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวทะเลที่หมู่เกาะสิมิลันแนะนำว่าลองมาสัก 3 วัน 2 คืน รับรองว่าจุใจแน่ ทั้งดำน้ำ ทั้งพายคายัก เรียกได้ว่าฟินกับทริปทะเลสวยๆ อย่างแน่นอน สำหรับการเดินทางไปพังงานั้น คุณสามารถนั่งเครื่องบินไปลงภูเก็ต และเช่ารถขับไปยังพังงา ก็ง่ายนิดเดียว

ขอบคุณแหล่งที่มา https://www.skyscanner.co.th

หาดละไมน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียว

หาดละไมชายหาดของที่นี่สวยงาม

หาดละไมตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ชายหาดของที่นี่สวยงาม น้ำทะเลสีฟ้าอมเขียว เป็นที่ตั้งของหินตา-หินยาย ที่ถือว่าเป็น 1 ในไอคอนของเกาะสมุย ซึ่งใกล้ๆหินตาหินยายนั้นมีร้านขายกะละแมอร่อยของขึ้นชื่อของเกาะสมุย หาดละไม มีความครึกครื้นรองลงมาจากหาดเฉวง มีร้านอาหาร ผับ บาร์ ไนท์คลับ และกิจกรรมหลากหลายให้คุณไม่รู้เบื่อกับการพักผ่อนที่นี่



ข้อดีของการพักที่หาดละไม

1. มีร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน แหล่งช้อปปิ้งครบครัน ในบรรยากาศที่ไม่พลุกพล่านจนเกินไป

2. มีโรงแรมราคาน่ารักๆให้เลือกมากมาย

3. ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหินตาหินยาย

4. ใกล้หาดเฉวง




ข้อเสียของการพักที่หาดละไม

1. หากคุณไม่ได้พักโรงแรมที่ติดหาดเลย การเดินทางไปที่ชายหาดจะค่อนข้างลำบาก

2. ไกลจากท่าเรือพอสมควร

3. ทะเลบางจุดมีโขดหิน



เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบ

1. บรรยากาศท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่ไม่พลุกพล่านมาก

2. นักท่องเที่ยวแบบครอบครัววันพักผ่อนสบายๆไม่หนักแสงสีเกินไป

ขอบคุณแหล่งที่มา http://hotelandresortthailand.com